ทรัมป์รุกหนัก แจ้งจะเรียกเก็บ ‘ภาษีต่างตอบแทน’ หลายประเทศ

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เลียนแบบท่ายกน้ำหนัก ในระหว่างการเป็นเจ้าภาพเลี้ยงอาหารค่ำแก่สมาชิกวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกันที่คฤหาสน์มาร์อาลาโกในเมืองปาล์มบีช รัฐฟลอริดา เมื่อ 7 กุมภาพันธ์ 2025 (ภาพ REUTERS/Kevin Lamarque)

ทรัมป์วางแผนจะประกาศเรียกเก็บภาษีคู่ค้าในอัตราที่เรียกเก็บกับสหรัฐในสัปดาห์หน้า ส่วนภาษีรถยนต์อยู่ระหว่างการพิจารณา ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ทรัมป์และพรรครีพับลิกันจะเปิดเผยแผนภาษีและงบประมาณในสุดสัปดาห์นี้ 

รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐวางแผนที่จะประกาศเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเท่ากับอัตราที่คู่ค้าเรียกเก็บจากสินค้าส่งออกของสหรัฐ (ภาษีศุลกากรต่างตอบแทนหรือภาษีศุลกากรแบบตอบโต้) กับหลายประเทศ ภายในวันจันทร์หรือวันอังคารหน้า ซึ่งถือเป็นการยกระดับการรุกครั้งใหญ่เพื่อทำลายและปรับเปลี่ยนความสัมพันธ์ทางการค้าโลกให้เอื้อประโยชน์ต่อสหรัฐ

ทรัมป์ไม่ได้ระบุว่าประเทศใดจะได้รับผลกระทบบ้าง แต่ชี้ว่าจะเป็นการประกาศขึ้นภาษีในวงกว้างที่อาจช่วยแก้ปัญหาด้านงบประมาณของสหรัฐได้ด้วย

“ผมจะประกาศในสัปดาห์หน้าว่าจะมีการเก็บภาษีต่างตอบแทน เพื่อที่เราจะได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันกับประเทศอื่นๆ เราไม่ต้องการอะไรที่มากไปหรือน้อยไปกว่านี้อีกแล้ว” ทรัมป์กล่าวเมื่อ 7 กุมภาพันธ์ ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งการเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นไปตามคำมั่นสัญญาในการหาเสียงของทรัมป์ที่จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าเท่ากับอัตราที่คู่ค้าเรียกเก็บจากสินค้าส่งออกของสหรัฐ

ทรัมป์ประกาศเรื่องนี้ในระหว่างการพบปะหารือกับนายชิเงรุ อิชิบะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นที่เดินทางเยือนสหรัฐ และทรัมป์กล่าวว่า สำหรับภาษีนำเข้ารถยนต์ยังคงอยู่ในขั้นตอนการพิจารณา หลังจากมีรายงานข่าวว่าทำเนียบขาวกำลังพิจารณาถึงการยกเว้นภาษีที่อาจเกิดขึ้นได้

ทรัมป์บ่นมานานแล้วว่าภาษีนำเข้ารถยนต์ 10% ของสหภาพยุโรป (อียู) นั้นสูงกว่าอัตราภาษีรถยนต์สหรัฐ ซึ่งเก็บที่ 2.5% อย่างมาก ทรัมป์พูดบ่อยครั้งว่ายุโรป “จะไม่รับรถยนต์ของเรา” แต่ส่งออกรถยนต์หลายล้านคันไปทางตะวันตกข้ามมหาสมุทรแอตแลนติกทุกปี

ADVERTISMENT

อย่างไรก็ตาม สหรัฐได้รับภาษีศุลกากร 25% สำหรับรถกระบะ ซึ่งเป็นแหล่งกำไรที่สำคัญสำหรับผู้ผลิตรถยนต์สัญชาติสหรัฐในเมืองดีทรอยต์อย่างเจนเนอรัล มอเตอร์ส , ฟอร์ดและสเตลแลนตทิส ที่มีการดำเนินงานในสหรัฐ

ในการพิจารณายืนยันการเสนอชื่อแต่งตั้งในชั้นวุฒิสภาเมื่อเร็วๆ นี้ โฮเวิร์ด ลุตนิค ผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ แสดงความกังวลเกี่ยวกับอัตราภาษีศุลกากรที่สูงของอินเดีย ในขณะที่จามีสัน กรีเออร์ ผู้ได้รับการเสนอชื่อให้ดำรงตำแหน่งผู้แทนการค้าสหรัฐกล่าวถึงข้อร้องเรียนของสหรัฐเกี่ยวกับภาษีนำเข้าและอุปสรรคทางการค้าของเวียดนามและบราซิล

ADVERTISMENT

กรีเออร์กล่าวว่าประเทศอื่นๆ จะต้องลดอุปสรรคต่อการส่งออกของสหรัฐหากต้องการรักษาการเข้าถึงตลาดสหรัฐโดยเฉพาะอย่างยิ่งเวียดนาม

ทรัมป์และที่ปรึกษากล่าวว่า การเรียกเก็บภาษีศุลกากรที่สูงขึ้นจะนำไปจ่ายชดเชย เพื่อขยายเวลาลดหย่อนภาษีในประเทศปี 2017 ซึ่งเป็นนโยบายของทรัมป์ในสมัยแรกและจะหมดอายุในสิ้นปีนี้ ทั้งนี้ การเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากต่างประเทศอาจช่วยชดเชยต้นทุนจากการลดหย่อนภาษีในประเทศบางส่วนได้ ถึงแม้ว่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา รายได้จากภาษีนำเข้าจะคิดเป็นเพียง 2% ของรายได้ต่อปีของสหรัฐก็ตาม

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นในช่วงที่ทรัมป์และพรรครีพับลิกันจะเปิดเผยแผนภาษีและการใช้จ่ายของภาครัฐในสุดสัปดาห์นี้ ซึ่งจะเจอเส้นทางที่อันตรายในการผลักดันให้ผ่านสภาเนื่องจากพรรครีพับลิกันมีเสียงข้างมากเพียงเล็กน้อยในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา คาดว่าพรรครีพับลิกันจะต้องพึ่งพากฎงบประมาณที่คลุมเครือลี้ลับเพื่อเลี่ยงการคัดค้านของพรรคเดโมแครตให้ได้