
นิสสัน และฮอนด้าประกาศยุติการเจรจาควบรวมกิจการอย่างเป็นทางการแล้ว แต่ยังคงดำเนินความร่วมมือทางยานยนต์ไฟฟ้าต่อไป
รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า นิสสัน (Nissan) และฮอนด้า (Honda) ยุติการเจรจาควบรวมกิจการอย่างเป็นทางการแล้ว โดยประกาศในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2025 ว่าบอร์ดของทั้งสองฝ่ายโหวตยุติการเจรจาควบรวมกิจการเป็นที่เรียบร้อย แต่ยังคงดำเนินความร่วมมือทางยานยนต์ไฟฟ้าต่อไป
หากการเจรจาควบรวมสำเร็จจะเกิดกลุ่มยานยนต์ที่มียอดขายรถสูงสุดเป็นอันดับ 4 ของโลก มูลค่า 60,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 2 ล้านล้านบาท) เป็นรองโตโยต้า โฟล์คสวาเกน และฮุนได
นิสสันซึ่งเป็นค่ายรถยักษ์ใหญ่อันดับสามในญี่ปุ่นถอนตัวจากการเจรจากับทางฮอนด้า บริษัทคู่แข่งที่มีขนาดใหญ่กว่า หลังการเจรจามีความซับซ้อนมากขึ้น เนื่องจากฮอนด้าเสนอให้นิสสันเป็นบริษัทในเครือ แทนการตั้งบริษัทโฮลดิ้งส์ตามที่ตกลงกันไว้แต่แรก
เมื่อปลายปี 2024 ฮอนด้า นิสสัน และมิตซูบิชิได้ประกาศว่าจะมีการพิจารณาควบรวมกิจการ ซึ่งภายหลังมีการรายงานว่ามิตซูบิชิไม่ได้ต้องการควบรวมกิจการด้วย
ตามที่ประกาศในบันทึกความเข้าใจร่วมกันระหว่างสามค่ายรถ บริษัททั้งสามจะร่วมมือกันเดินหน้าพัฒนาภายใต้ความเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership) โดยมุ่งเป้าไปยังยุคสมัยแห่งยานยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับ
นิสสันและฮอนด้าต้องเผชิญความเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ หลังค่ายรถไฟฟ้าจีนอย่างบีวายดี (BYD) เติบโตอย่างรวดเร็ว ทั้งยังต้องเผชิญกับกำแพงภาษีจากสหรัฐ ตลาดสำคัญแห่งหนึ่งของโลก
นิสสันกำลังผลักดันแผนปรับปรุงโครงสร้างตามที่ประกาศไว้ในเดือนพฤศจิกายน 2024 ว่าจะมีการลดตำแหน่งงานกว่า 9,000 ตำแหน่ง พร้อมลดกำลังการผลิตทั่วโลกลง 20% โดยยังไม่แสดงรายละเอียดเพิ่มเติมใด ๆ เกี่ยวกับพื้นที่ที่จะได้รับผลกระทบ
แหล่งข่าวเปิดเผยกับรอยเตอร์สในเดือนธันวาคมว่า นิสสันต้องการลดกำลังการผลิตในจีนลง ซึ่งมีโรงงานมากถึง 8 แห่งผ่านการดำเนินกิจการร่วมค้า (Joint Venture) กับตงเฟิง มอเตอร์ (Dongfeng Motor) และขณะนี้ นิสสันระงับการผลิตในโรงงานที่ฉางโจวแล้ว เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
ก่อนการประกาศควบรวมกิจการ นิสสันและฮอนด้าได้ร่วมกันเจรจาความร่วมมือทางเทคโนโลยีมาก่อน
ขณะนี้ นิสสันเปิดกว้างในการทำงานร่วมกับพันธมิตรรายใหม่ เช่น ฟ็อกซ์คอนน์ (Foxconn) ของไต้หวัน ซึ่งยัง หลิว (Young Liu) กล่าวว่ากำลังพิจารณาเข้าถือหุ้นของนิสสัน แต่เป้าหมายหลักคือการดำเนินงานร่วมกัน