
ไต้หวันพร้อมเพิ่มงบประมาณทางการทหารเป็น 3% ของจีดีพี และเตรียมเจรจาเกี่ยวกับอุตสาหกรรมชิปกับทางสหรัฐ
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า ไล่ชิงเต๋อ (Lai Ching-te) ประธานาธิบดีไต้หวันรับปากจะเพิ่มงบประมาณทางการทหาร เพื่อแสดงให้โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) มองเห็นว่า หมู่เกาะไต้หวันพร้อมปกป้องตัวเองจากจีน
ไล่ชิงเต๋อกล่าวระหว่างการแถลงข่าวในวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ณ กรุงไทเป ว่าจะเพิ่มรายจ่ายทางการทหารเป็น 3% ของจีดีพี โดยไม่บอกว่าจะเริ่มเมื่อใด ไต้หวันกล่าวว่าจะทุ่มงบไปกับความมั่นคงมากเป็นประวัติการณ์ในปี 2025 ซึ่งอาจคิดเป็น 2.45% ของจีดีพีโดยประมาณ
ไล่ชิงเต๋อยังกล่าวหลังการประชุมร่วมกับเจ้าหน้าที่ความมั่นคงไต้หวันอีกด้วยว่า ไต้หวันเต็มใจที่จะร่วมมือกับทางสหรัฐในทุกด้าน ไต้หวันจะขยายการลงทุนในสหรัฐ และจะซื้อสินค้าจากสหรัฐมากขึ้น และทางรัฐบาลไต้หวันจะเจรจากับทีมงานรัฐบาลทรัมป์
ไล่ชิงเต๋อต้องการรักษาความกรุณาอันดีจากทรัมป์ เนื่องจากสหรัฐเป็นผู้สนับสนุนทางการทหารรายใหญ่สุดให้กับไต้หวัน ในการเผชิญการรุกรานจากจีน
ขณะรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ทรัมป์เคยปรารภไว้ว่า ไต้หวันควรทุ่มเงิน 10% ของจีดีพีไปกับการป้องกันตนเอง ตลอดจนเรียกร้องให้สมาชิกนาโต้สมทบเงินด้านความมั่นคงให้มากขึ้น นอกจากนี้ ทรัมป์ยังกล่าวอีกด้วยว่าไต้หวันควรจ่ายค่าคุ้มครองให้กับสหรัฐ
สถานการณ์ทวีความยุ่งยากขึ้นอีก เมื่อไต้หวันเกินดุลการค้ากับสหรัฐมากเป็นประวัติการณ์ในปี 2024 ซึ่งอาจสร้างความเดือดดาลอย่างมากให้แก่ทรัมป์ ผู้ซึ่งต้องการปรับดุลการค้าของสหรัฐใหม่
กำแพงภาษีอาจสร้างความเสียหายอย่างมากต่อเศรษฐกิจไต้หวัน ซึ่งเติบโตอย่างรวดเร็วตลอดสามปีที่ผ่านมา จากแรงหนุนด้านปัญญาประดิษฐ์ที่สร้างอุปสงค์ให้กับสินค้าเทคของไต้หวันอย่างมาก ในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ ทรัมป์กล่าวว่าจะเล็งขึ้นกำแพงภาษีต่อเซมิคอนดักเตอร์และสินค้าอื่น ๆ เพิ่มเติมจากการขึ้นกำแพงภาษีแบบตอบโต้ (Reciprocal Tariffs)
นอกจากนี้ทรัมป์เคยกล่าวหาว่าไต้หวันขโมยกิจการชิปไปจากสหรัฐ โดยไล่ชิงเต๋อกล่าวระหว่างงานแถลงข่าวว่า อุตสาหกรรมชิปไต้หวันสามารถรับมือสถานการณ์ใหม่ได้แต่ก็ไม่ได้ขยายความเพิ่มเติมใด ๆ และบอกว่ารัฐบาลไต้หวันจะหารือกับอุตสาหกรรมชิปไต้หวันถึงแนวทางการเจรจากับสหรัฐ ซึ่งจะดำเนินไปอย่างรอบคอบ
ไล่ชิงเต๋อกล่าวว่า งบประมาณด้านความมั่นคงที่เพิ่มขึ้นจะกันมาจากงบประมาณพิเศษ ซึ่งจำเป็นต้องอาศัยเสียงสนับสนุนจากฝ่ายค้าน พรรคก๊กมินตั๋ง (KMT) ที่มีที่นั่งในสภาสูงกว่าพรรคหมินจิ้นตั่ง (DPP) ของไล่ชิงเต๋อเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้ ไต้หวันประกาศว่าจะซื้อพลังงานจากสหรัฐเพิ่มขึ้นเพื่อเติมเต็มอุปสงค์ในภาคอุตสาหกรรม เพื่อหลีกเลี่ยงภัยจากกำแพงภาษี