
“สตาร์บัคส์” เล็งเปิด 500 สาขาเพิ่มในตะวันออกกลาง ภายในปี 2030 หลังเผชิญกระแสบอยคอตจากผู้บริโภคภายในภูมิภาคตลอดปี 2024
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า สตาร์บัคส์ คอร์ป. (Starbucks Corp.) วางแผนขยายสาขาในภูมิภาคตะวันออกกลางอีก 500 สาขา ภายในปี 2030 สร้างตำแหน่งงานอีกกว่า 5,000 ตำแหน่ง หลังเผชิญกระแสบอยคอตจากผู้บริโภคภายในภูมิภาคตลอดปี 2024 ซึ่งสร้างความเสียหายทางธุรกิจอย่างมาก
สตาร์บัคส์เผชิญการบอยคอตอย่างรุนแรง เนื่องจากผู้บริโภคในภูมิภาคตะวันออกกลางมองว่าสตาร์บัคส์ไม่กดดันอิสราเอลเพียงพอ จากการรุกรานฉนวนกาซา ขณะที่ไบรอัน นิกโคล (Brian Niccol) ซีอีโอสตาร์บัคส์เคยให้สัมภาษณ์เมื่อปีก่อนว่า สตาร์บัคส์ถูกบอยคอตด้วยข้อหาที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ตรงกับความเป็นจริง เพราะสตาร์บัคส์ไม่เคยสนับสนุนกองทัพอิสราเอลเลย
ปัจจุบัน สตาร์บัคส์มีสาขาในภูมิภาคตะวันออกกลางกว่า 1,300 ตำแหน่ง
นิกโคลรับตำแหน่งซีอีโอในเดือนกันยายน 2024 เพื่อฟื้นการเติบโตของสตาร์บัคส์ เนื่องด้วยยอดขายถูกบั่นทอนจากหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นการบอยคอตจากผู้บริโภค หรือจำนวนผู้บริโภคที่ลดลงจากราคาที่สูงขึ้น
นิกโคลเริ่มปรับแผนธุรกิจในทวีปอเมริกาเหนือก่อน ซึ่งคิดเป็น 75% ของรายได้ทั้งหมด ทั้งยังกล่าวว่าจะปรับปรุงโครงสร้างองค์กรใหม่เพื่อลดความซับซ้อนลง ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการปรับลดตำแหน่งงานและจะประกาศอีกทีในเดือนมีนาคม
บัดนี้ นิกโคลมุ่งเป้าไปยังตลาดต่างประเทศมากขึ้น โดยจะเพิ่มสาขาในจีนอีก 1,000 แห่ง ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจจีนที่ซบเซา และผู้บริโภคมีแนวโน้มซบหากาแฟราคาถูกจากคู่แข่งในประเทศมากขึ้น และยังพิจารณาขายหุ้นบริษัทอีกด้วย
นับตั้งแต่เริ่มปีจนตลาดปิด (YTD) ในวันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ 2025 หุ้นสตาร์บัคส์เพิ่มขึ้น 22.6%