ผมไม่เคยเลี่ยงพูดความจริง! ‘หลิว จงอี้’ ตำรวจมือสืบ ผ่าคดีใหญ่นับไม่ถ้วน

เปิดประวัติ ‘หลิว จงอี้’ ตำรวจมือรางวัล ผ่าคดีใหญ่นับไม่ถ้วน ที่จีนส่งมาปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์

มติชน รายงานว่า หลิว จงอี้ (刘忠义) ผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงและสาธารณะ สาธารณรัฐประชาชนจีน ปรากฏในหน้าสื่อไทยและเอเชีย หลายต่อหลายครั้ง หลังจาก ซิงซิง ถูกหลอกพาตัวไปแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ที่เมียวดี ก่อนช่วยเหลือได้สำเร็จ

จากนั้นได้พบปะหารือกับฝ่ายความมั่นไทย อาทิ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ตำรวจไซเบอร์) เพื่อหารือและประสานความร่วมมือในการจัดการปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่เมืองเมียวดี เมียนมา จนได้พบกับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง และ รมว.กลาโหม หลังจากนั้นนำมาสู่คำสั่งตัดการจ่ายไฟฟ้าให้กับเมืองสแกมเมอร์ที่ชายแดน

และล่าสุดผู้ช่วยหลิว เดินทางไปเมียวดี เพื่อติดตามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ตามบัญชีดำของฝ่ายจีน พร้อมกับเข้าเยี่ยมชาวต่างชาติที่ BGF ช่วยเหลือออกจากเมืองสแกมเมอร์ ชเวโก๊กโก่ ที่ไปรวมกันอยู่ที่ศูนย์พักคอย ศูนย์บัญชาการ BGF ที่มีทั้งชาวจีนและต่างชาติ รวมถึงพบปะผู้นำกลุ่มต่าง ๆ ในเมียนมา

อดีตตำรวจจีน มือพระกาฬ

หลิว จงอี้ ประวัติไม่ธรรมดา เป็นตำรวจมือดีคนหนึ่ง ที่มีชื่อเสียงในด้านการแก้ไขคดี ที่หลายคนแก้ไม่ได้ เคยได้รับรางวัล “ตัวอย่างด้านความมั่นคงสาธารณะ” ระดับประเทศ ในปี 2560 กับความรู้ทางวิชาชีพ ความสามารถที่โดดเด่น ตลอดจนความสำเร็จในการปราบปรามอาชญากรรมร้ายแรง ขณะดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานสืบสวนคดีอาญา กระทรวงความมั่นคงสาธารณะ

ADVERTISMENT

บนเว็บไซต์ Baidu ระบุว่า หลิว จงอี้ เกิดเมื่อสิงหาคม 2508 สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยตำรวจมณฑลเฮยหลงเจียง สำเร็จการศึกษาปริญญาตรี และเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์จีน

ปัจจุบัน นอกจากจะเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีแล้ว ยังดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการพรรค และผู้อำนวยการกองบัญชาการที่ 5

ADVERTISMENT

มือสืบสวนคดีอาญาระดับชาติ

สื่อจีนรายงานว่า หลิว จงอี้ เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการสืบสวนคดีอาญาระดับชาติ ที่อยู่ในแนวหน้ากับการต่อสู้กับอาชญากรรมของจีน ที่ผ่านคดีที่ “ร้ายแรง” และ “ซับซ้อน” มาแล้วหลายพันคดี

หลิว จงอี้ มีหน้าที่หลักในการสืบสวนอาชญากรรมร้ายแรงและรุนแรงในประเทศ เขาออกไปบนท้องถนนมากกว่า 200 วันในแต่ละปี เพื่อสืบสวนอาชญากรรม

ข้อมูลจาก ซีซีทีวี ระบุว่า ทุกคนที่เคยทำงานกับหลิว จงอี้ พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเขามีความมุ่งมั่น

นับตั้งแต่เดือนมีนาคม 2559 หลิว จงอี้ ได้ทำหน้าที่เป็นผู้นำในการจัดระบบการสืบสวนคดีฆาตกรรม 9 คดีที่ยังไม่คลี่คลายมานาน ซึ่งส่งผลกระทบอย่างสำคัญต่อประเทศนับตั้งแต่มีการปฏิรูปและเปิดประเทศ

ซึ่งรวมถึงคดีข่มขืนและฆ่าผู้หญิงหลายคดีในเมืองไป๋หยิน มณฑลกานซู่ คดีขโมยปืนและปล้นทรัพย์ในเมืองไค่ลี่ จังหวัดกุ้ยโจว และการฆาตกรรมอนาจารนักเรียนหญิงสามคนในมณฑลเจียงเซียน จังหวัดซานซี คดีที่ยาวนานที่สุดเกิดขึ้นเมื่อเกือบ 30 ปี

ย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 24 ตุลาคม 2558 เกิดเหตุการณ์ฆาตกรรมในเมืองเหอหยวน มณฑลกวางตุ้ง ส่งผลให้เด็กชายเสียชีวิต 2 ราย และได้รับบาดเจ็บสาหัส 1 ราย หลังจากที่หลิว จงอี้มาถึงที่เกิดเหตุ เขาก็ได้สืบสวนซ้ำแล้วซ้ำเล่า เพื่อแก้ไขปัญหาที่ไม่สามารถดึงหลักฐานใด ๆ ออกมาได้ระหว่างการสืบสวนในสถานที่จริง เขาจึงได้จัดตั้งกองกำลังพิเศษขึ้น เพื่อวิเคราะห์วิดีโอระยะไกลของสถานที่เกิดเหตุ

จากนั้นเขาก็ได้ค้นพบบุคคลต้องสงสัย และติดตามตัว นำเสื้อผ้าที่ทิ้งไว้ของบุคคลนั้นกลับมา หลังจากการตรวจสอบทางเทคนิคและการระบุตัวตนโดยมวลชนแล้ว พบว่าบุคคลนั้นคือหลิวจากเหอหยวน

เขาวิเคราะห์ลักษณะบุคลิกภาพ วิธีการ และทักษะของหลิวอย่างละเอียด เมื่อพิจารณาว่าหลิวเป็นชาวฮากกา มีปัญหาทางการเงิน พกเสื้อผ้าไม่มาก ไม่ใช้เครื่องมือสื่อสารใด ๆ และไม่มีการติดต่อกับญาติและเพื่อนฝูง เขาจึงตัดสินว่าหลิวน่าจะซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่อยู่อาศัยของชาวฮากกาที่อยู่รอบ ๆ ที่เกิดเหตุ เขาจึงตัดสินใจจัดกำลังตำรวจเพื่อดำเนินการสืบสวนอย่างเข้มข้นในรัศมี 200 กิโลเมตร ห้าวันต่อมาหลิวก็ถูกจับได้สำเร็จ

“ผมไม่เคยเลี่ยงพูดความจริง – เราต้องมีความรับผิดชอบ”

หลิว จงอี้ ได้กล่าวถึงแนวทางการทำงานว่า “ในฐานะผู้สืบสวนอาชญากรรม เราต้องมีความรับผิดชอบ เนื่องจากการทำผิดทางอาญาเพียงครั้งเดียวจะส่งผลกระทบต่อครอบครัวมากกว่า 1 หรือ 2 ครอบครัว และส่งผลกระทบต่อเสถียรภาพของสังคมทั้งหมด”

เมื่อเกิดอาชญากรรมขึ้น เขาจะรีบไปที่เกิดเหตุเสมอ “ไม่ว่าคดีนั้นจะยากและซับซ้อนแค่ไหน ผมก็พร้อมจะรับผิดชอบเสมอ และไม่เคยที่จะเลี่ยงการพูดความจริง”

ตลอดอาชีพการทำงาน 30 กว่าปีของเขานั้น เขาเติบโตจากการเป็นหัวหน้าของสถานีตำรวจในมณฑลเฮยหลงเจียง และเป็นกัปตันตำรวจ ก่อนที่ในที่สุด เป็นผู้สืบสวนคดีอาชญากรรมที่โดดเด่น

ไม่ว่าในช่วง 26 ปี ของการทำงานระดับพื้นฐาน หรือ 6 ปี ในกระทรวงความมั่นคงสาธารณะ เขาแสดงให้เห็นถึงคุณภาพที่ยอดเยี่ยมของการสืบสวน ตลอดทุกขั้นตอน รวมถึงการลงพื้นที่สอบสวน การรวบรวมหลักฐาน และสั่งการ

การปราบปรามอาชญากรรมในลักษณะที่สามารถต้านทานการทดสอบของศาล และประวัติศาสตร์ ถือเป็นหลักในการทำงานของผู้ช่วยหลิวคนนี้

หลิว จงอี้ ได้รับความไว้วางใจให้ทำคดีใหญ่ ๆ มากมาย ปี 2562 เขาได้ออกมาแถลงข่าวกรณีตำรวจจีนได้ช่วยเหลือผู้หญิงต่างชาติที่ถูกลักพาตัวได้มากกว่า 1,000 คน จากความช่วยเหลือกันระหว่างเมียนมา กัมพูชา ลาว ไทย และเวียดนาม

คดีครั้งนั้นเป็นการค้ามนุษย์และแต่งงานปลอม 760 คดี ตั้งแต่ มิถุนายน-ธันวาคม 2561 นำไปสู่การจับกุมผู้ต้องสงสัยถึง 1,332 คน รวมทั้งต่างชาติ 262 คน ช่วยหญิงต่างชาติได้ 1,130 คน และเด็ก 17 คน

ภาพจาก news.cctv ในปี 2565 มีคดีทำร้ายร่างกายผู้หญิงหลายรายในร้านบาร์บีคิว ที่ถังซาน เหอเป่ย ตอนเหนือของจีน ซึ่งกลายเป็นพาดหัวข่าวทั่วจีน หลิวที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนอาชญากรรม ขณะนั้น ก็ออกมาสร้างความมี่นใจให้กับประชาชน ว่าจริงจังกับคดีนี้ และนำผู้เชี่ยวชาญทั่วประเทศมาสืบสวน ทำให้ประชาชนขจัดความกังวลได้

ไม่นานมานี้เอง 12 เมษายน ปี 2567 ผลงานอันเป็นที่ประจักษ์ ทำให้จีนได้เลื่อนตำแหน่ง หลิว จงอี้ (วัย 59 ปี ในขณะนั้น) ผู้อำนวยการสำนักงานสอบสวนอาชญากรรม ขึ้นเป็นผู้ช่วยรัฐมนตรี

หลังรับตำแหน่ง หลิว จงอี้ มีบทบาทในการเดินทางไปประเทศต่าง ๆ เพื่อหารือความร่วมมือในการแก้ปัญหาอาชญากรข้ามพรมแดน โดย 3 เดือนก่อน ได้เดินทางไปหารือกับรองนายกฯ และ รมว.มหาดไทย ของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ที่มา รัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทยสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์)

กระทั่งครั้งนี้ที่ทั่วโลกต่างจับตาการแก้ปัญหา สแกมเมอร์ เมียวดี ว่าจะขจัดภัยครั้งนี้ได้จริงหรือไม่

ที่มา SCMP / GNLM / Chinadaily / Scio.gov / มติชน