‘แฮสเซ็ตต์’ คีย์แมนทรัมป์ล็อกเป้าจีน มองขึ้นภาษีเป็นสงครามยาเสพติด

เควิน แฮสเซตต์ ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ พูดคุยกับสื่อมวลชนที่ทำเนียบขาว ในกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา 7 กุมภาพันธ์ 2025 (ภาพ REUTERS/Kent Nishimura)

การใช้เครื่องมือภาษีนำเข้าไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสงครามการค้า แต่เป็นสงครามยาเสพติด

คำกล่าวนี้มาจากอีกหนึ่งคีย์แมนของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ นั่นคือ เควิน แฮสเซ็ตต์ (Kevin Hassett) ผู้อำนวยการสภาเศรษฐกิจแห่งชาติ และเป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจของทรัมป์ ซึ่งขยายความเรื่องนี้ว่า การขึ้นภาษีจีน 10% ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของสงครามการค้า แต่เป็นสงครามยาเสพติดต่างหาก

ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจเน้นไปที่จีน และย้ำว่าเป็นสงครามยาเสพติด เมื่อชาวอเมริกันเสียชีวิตจากเฟนทานิลเมื่อปีที่แล้ว 90,000 รายมากกว่าเสียชีวิตในสงครามเวียดนาม ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่สามารถยอมรับได้ เขามองว่าประชาชนอเมริกันแทบไม่พูดเรื่องจีน แต่ทางการสหรัฐกำลังเฝ้าจับตาดูสถานการณ์ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หลังจากเก็บภาษีจีนแบบครอบคลุม 10% และจีนตอบโต้เรียกเก็บภาษีสหรัฐ 10-15% ในสินค้าบางรายการ

แฮสเซ็ตต์เผยความคืบหน้าในส่วนของแคนาดาและเม็กซิโกที่เริ่มมีความก้าวหน้าในการปราบการลักลอบขนเฟนทานิลตามชายแดน ตามที่ทรัมป์เรียกร้อง โดยแคนาดาเพิ่มงบฯ 1.3 พันล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 43,000 ล้านบาท) และเม็กซิโกเพิ่มทหารตรวจตราชายแดนอีก 10,000 นาย ส่งผลให้ทรัมป์ระงับภาษีแคนาดาและเม็กซิโกชั่วคราว

แฮสเซ็ตต์ย้ำว่าจีนสามารถมีส่วนช่วยแก้ปัญหาเรื่องนี้ได้อย่างมาก แต่จีนไม่ทำ และได้กล่าวตอบคำถามว่าจีนเป็นประเทศที่มีขนาดใหญ่ทำให้ปัญหานี้ซับซ้อนหรือไม่ แต่แฮสเซตต์มองว่าจีนเป็นรัฐที่เจ้าหน้าที่สอดส่องประชาชนอยู่แล้ว และประกอบกับข้อมูลข่าวกรองสหรัฐ เขาระบุว่าจีนรับทราบปัญหาเรื่องนี้ และสามารถช่วยได้อย่างมาก แต่จีนกลับตัดสินใจไม่ทำ แฮสเซ็ตต์แนะให้สังเกตบทบาทของภาษีต่อการเปลี่ยนหรือไม่เปลี่ยนการกระทำของจีน แคนาดา และเม็กซิโก นับจากนี้

ย้อนไปเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ทรัมป์ได้กำหนดภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน 10% โดยอ้างถึงความล้มเหลวของจีนในการหยุดยั้งการแพร่ขยายการใช้ส่วนผสมในการผลิตเฟนทานิลที่ผิดกฎหมาย และปล่อยให้หลั่งไหลเข้ามาในสหรัฐผ่านแคนาดาและเม็กซิโก

ADVERTISMENT

ด้านทางการจีนแถลงต่อสื่อมวลชนว่า จีนคัดค้านการใช้ข้ออ้างเรื่องเฟนทานิลในการขึ้นภาษีของทรัมป์ และมองว่าปัญหาเฟนทานิลเป็นปัญหาภายในสหรัฐ การขึ้นภาษีสินค้านำเข้าไม่สามารถแก้ปัญหาภายในของสหรัฐได้

แฮสเซ็ตต์ประมาณการว่าภาษีนำเข้า 10% จะสร้างรายได้ 500,000 ล้านเหรียญ ถึง 1 ล้านล้านเหรียญ (ราว 16.7 ถึง 33.5 ล้านล้านบาท) ในช่วง 10 ปีข้างหน้า

ADVERTISMENT

ทำเนียบขาวกำลังมองหาวิธีลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มรายได้ เพื่อขยายหรือลดหย่อนภาษีอย่างถาวร ซึ่งบังคับใช้ในปี 2017 ในช่วงที่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งสมัยแรก แฮสเซ็ตต์แนะว่า การแทนที่รายได้จากภาษีเงินได้ด้วยรายได้จากภาษีนำเข้านั้นเป็นไปได้ แต่การประมาณการรายได้ภาษีนำเข้าในปัจจุบันยังต่ำกว่ามูลค่าลดหย่อนภาษีที่มีมูลค่าประมาณ 4.5 ล้านล้านเหรียญ (ราว 151 ล้านล้านบาท) อย่างมาก

ทรัมป์ยังบอกเป็นนัยว่า การทำข้อตกลงการค้ากับจีนเพื่อแก้ปัญหาก็เป็นไปได้เช่นกัน แต่ไม่ให้รายละเอียด ทรัมป์บอกเพียงว่าเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน

นอกจากเรื่องจีนแล้ว ในฐานะของนักเศรษฐศาสตร์ แฮสเซ็ตต์ระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์กำลังแสดงให้ประชาชนอเมริกันเห็นว่า บริษัทอเมริกันจ่ายภาษีให้หุ้นส่วนการค้าต่างชาติมากแค่ไหน และบริษัทต่างชาติจ่ายภาษีให้สหรัฐมากแค่ไหน ซึ่งตัวเลขที่ออกมานั้นช็อกมากจริง ๆ โดยเมื่อปี 2024 บริษัทสหรัฐจ่ายภาษีให้หุ้นส่วนการค้าต่างชาติมีมูลค่า 370,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 12 ล้านล้านบาท) แต่บริษัทต่างชาติจ่ายภาษีให้สหรัฐแค่ 60,000 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 2 ล้านล้านบาท)

 

อ้างอิง :

CNN

Bloomberg