ทรัมป์เขย่าเพนตากอน ปลดปธ.เสนาธิการทหาร ตั้งอดีตรองผอ. CIA นั่งแทน

พลเอกซีคิว บราวน์ ประธานคณะเสนาธิการทหารร่วม กล่าวระหว่างการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 26 เมษายน 2024 ที่กระทรวงกลาโหม (ภาพ AP Photo/Kevin Wolf, File)

ประธานาธิบดีทรัมป์เดินหน้าปลดพลอากาศเอก ซี.คิว. บราวน์ ออกจากตำแหน่งประธานเสนาธิการทหารร่วม และนายทหารระดับสูงอีกหลายคนในกระทรวงกลาโหม นับเป็นการยกเครื่องกระทรวงนี้ครั้งใหญ่อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

บีบีซี (BBC) และรอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐสั่งปลดพลอากาศเอก ซี.คิว. บราวน์ ออกจากตำแหน่งประธานเสนาธิการทหารร่วม ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ปรึกษาทางทหารระดับสูงสุดในกระทรวงกลาโหมสหรัฐหรือเพนตากอน และนายพลอีก 5 นายที่เป็นผู้บังคับบัญชาระดับสูงออกจากตำแหน่ง ในการปรับเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ระดับสูงในกระทรวงครั้งใหญ่อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2025

พลโทแดน เรซิน เคน จากกองทัพอากาศสหรัฐ (ภาพ AP)

ทรัมป์โพสต์ลง Truth Social ประกาศว่าเขาจะตั้งพลโทแดน เรซิน เคน นักบินเอฟ-16 และอดีตรองผู้อำนวยการด้านกิจการทหารประจำสำนักข่าวกรองกลาง (CIA)  ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานเสนาธิการทหารร่วมคนใหม่ และทรัมป์ยังโพสต์ขอบคุณพลเอกบราวน์ด้วย

“ผมอยากจะขอบคุณพลเอกชาร์ลส์ ‘ซี.คิว.’ บราวน์ สำหรับการรับใช้เพื่อประเทศของเราเป็นเวลา 40 กว่าปี” ทรัมป์โพสต์

ก่อนหน้านี้ พีท เฮกเซธ รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐเคยกล่าวว่า พลเอกบราวน์ควรถูกไล่ออก เนื่องจากเขา “โว้ก” ซึ่งเฮกเซธหมายถึงเขาตื่นรู้มากเกินไปในประเด็นความหลากหลาย ความเท่าเทียม และความครอบคลุมในกองทัพ

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่สหรัฐรายหนึ่งเปิดเผยว่า คำสั่งปลดพลอากาศเอกบราวน์ จะมีผลในทันที ก่อนที่วุฒิสภาจะรับรองบุคคลที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน และเกิดขึ้นตามที่มีแหล่งข่าวเผยออกมาก่อนที่ทรัมป์จะเข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ ว่าจะมีการปลดนายทหารชั้นผู้ใหญ่ออ กรวมถึงพลเอกเอกบราวน์ด้วย

ADVERTISMENT

พลเอกบราวน์เป็นเจ้าหน้าที่ผิวดำคนที่ 2 ที่ได้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาทางทหารระดับสูงสุดของประธานาธิบดีสหรัฐต่อจากโคลิน พาวเวลล์ ที่เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมผิวดำคนแรก โดยดำรงตำแหน่งตั้งแต่ปี 1989-1993

กระทรวงกลาโหมระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์ยังจะแต่งตั้งบุคคลขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทนพลเรือเอก ลิซา เอ็ม. แฟรนเกตตี ผู้บัญชาการยุทธนาวี ซึ่งเป็นผู้หญิงคนแรกที่ดำรงตำแหน่งดังกล่าว ที่ถูกสั่งปลดออกไปพร้อมกับรองประธานเสนาธิการกองทัพอากาศ ผู้พิพากษาทั่วไปแห่งกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศด้วย

ADVERTISMENT

ซีเอ็นเอ็น (CNN) รายงานว่า การปลดบุคลากรผิวดำคนที่ 2 ที่ดำรงตำแหน่งสูงสุดในกองทัพสหรัฐ และผู้หญิงคนแรกที่ดำรงตำแหน่งในคณะเสนาธิการร่วม ดูเหมือนจะเป็นการส่งสัญญาณที่ชัดเจนจากรัฐบาลทรัมป์ในการทำให้ความหลากหลายและการมีส่วนร่วมเป็นสิ่งต้องห้ามในกองทัพและรัฐบาลในวงกว้าง

นอกจากนี้ ยังจะมีการปลดเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมอีก 5,400 คน ส่วนหนึ่งของแผนการตัดลดเจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางของทรัมป์เพื่อลดรายจ่ายของรัฐบาล ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในสัปดาห์หน้า เป็นการลดลงเพียงเล็กน้อยจากจำนวนการเลิกจ้างในกระทรวงกลาโหมสหรัฐที่คาดว่าจะมีถึง 50,000 ตำแหน่ง

ดาริน เซลนิก เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งกล่าวว่า กระทรวงกลาโหมจะหยุดการจ้างงานและอาจตัดลดจำนวนเจ้าหน้าที่พลเรือนลงราว 5-8% ของที่มีอยู่ทั้งหมด 950,000 คน

การตัดลดนี้เป็นส่วนหนึ่งของการปรับโครงสร้างรัฐบาลครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายใต้การกำกับดูแลของอีลอน มัสก์ มหาเศรษฐีนักธุรกิจ ที่ทรัมป์ได้แต่งตั้งให้เป็นผู้นำกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) อันเป็นคณะทำงานที่ปรึกษาในรัฐบาลทรัมป์ ทำหน้าที่กำกับดูแลการปฏิรูปหน่วยงานรัฐให้ทำงานอย่างประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการตัดลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็นดังกล่าว