UNSC ผ่านมติ สหรัฐเป็นกลางสงครามยูเครน สะท้อนปรองดองรัสเซียมากขึ้น

ช่วงเวลาที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติกำลังจะลงมติ ที่สำนักงานใหญ่นครนิวยอร์กของสหประชาชาติ เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ 2025 (ภาพ AP Photo/Richard Drew)

คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ผ่านมติ จุดยืนเป็นกลางของสหรัฐต่อสงครามในยูเครน ขณะที่ทรัมป์พยายามที่จะไกล่เกลี่ยความขัดแย้ง สะท้อนการปรองดองกับรัสเซียมากขึ้น

รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC รับรองมติที่ร่างโดยสหรัฐเกี่ยวกับจุดยืนที่เป็นกลางของสหรัฐในสงครามยูเครน ในห้วงที่สงครามดำเนินมาครบ 3 ปี ในขณะที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐหาทางที่จะไกล่เกลี่ยความขัดแย้ง เมื่อ 24 กุมภาพันธ์ เวลาท้องถิ่น

มติสั้น ๆ ความยาว 3 ย่อหน้าที่ร่างโดยสหรัฐดังกล่าว สะท้อนถึงการพลิกกลับนโยบายของสหรัฐที่มีต่อยูเครน หลังจากทรัมป์เข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา และจุดยืนที่ปรองดองมากขึ้นของเขาต่อรัสเซีย ในทางตรงกันข้าม รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดน ได้ใช้เวทีสหประชาชาติเพื่อสนับสนุนยูเครนตลอดช่วงสงคราม

วาซิลี เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ ยอมรับว่ามีการเปลี่ยนแปลงเชิงสร้างสรรค์ต่อจุดยืนของสหรัฐต่อความขัดแย้ง โดยเขากล่าวต่อคณะมนตรีความมั่นคงว่า มติดังกล่าวไม่ใช่แนวทางในอุดมคติ แต่เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการดำเนินการในอนาคตเพื่อสันติภาพ

ที่ผ่านมา คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ซึ่งมีสมาชิก 15 ประเทศ ไม่สามารถดำเนินการใด ๆ ได้ เนื่องจากรัสเซียใช้สิทธิยับยั้งหรือวีโต้ร่างมติที่ไม่เห็นด้วย

นอกจากนี้ มติจาก UNSC แสดงความอาลัยต่อการสูญเสียชีวิตจาก “ความขัดแย้งระหว่างรัสเซียและยูเครน” และย้ำจุดมุ่งหมายของสหประชาชาติคือรักษาสันติภาพและความมั่นคงระหว่างประเทศ และยุติข้อพิพาทโดยสันติ ตลอดจนเรียกร้องให้ยุติความขัดแย้งโดยเร็วและบังเกิดสันติภาพที่ยั่งยืน

ADVERTISMENT

สมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงได้ลงมติเห็นชอบด้วยคะแนนเสียง 10 เสียง ขณะที่ฝรั่งเศส อังกฤษ เดนมาร์ก กรีซ และสโลวีเนียงดออกเสียง รัสเซียลงมติเห็นชอบหลังจากที่ไม่สามารถแก้ไขมติได้ และยับยั้งข้อเสนอของยุโรปที่จะเพิ่มข้อความสนับสนุนยูเครน

อย่างไรก็ตาม แนวทางการไกล่เกลี่ยของทรัมป์ทำให้ยูเครนและพันธมิตรในยุโรประมัดระวังต่อการที่เขามุ่งเน้นไปที่รัสเซีย และกังวลว่ายุโรปอาจถูกตัดออกจากการเจรจาเพื่อยุติสงคราม

ADVERTISMENT

บาร์บารา วูดเวิร์ด เอกอัครราชทูตอังกฤษประจำสหประชาชาติ กล่าวต่อคณะมนตรีความมั่นคงว่า เงื่อนไขสันติภาพในยูเครนมีความสำคัญ และจะต้องส่งสารว่าการรุกรานไม่เกิดผลดี จึงไม่มีความเท่าเทียมกันระหว่างยูเครนและรัสเซีย หากเราต้องการแสวงหาเส้นทางสู่สันติภาพที่ยั่งยืน คณะมนตรีจะต้องชัดเจนเกี่ยวกับต้นเหตุของสงครามด้วย

อย่างไรก็ตาม ในวันเดียวกันนี้ สหรัฐกลับล้มเหลวที่จะทำให้สมัชชาใหญ่สหประชาชาติ (UNGA) ผ่านร่างมติจุดยืนที่เป็นกลางของสหรัฐ ซึ่งสมัชชายูเอ็นที่มีสมาชิก 193 ประเทศได้ผ่านมติที่สนับสนุนอำนาจอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของยูเครนมาหลายครั้งและเรียกร้องให้มีสันติภาพที่ยุติธรรม ยั่งยืน และครอบคลุมตามกฎบัตรสหประชาชาติในวาระครบ 3 ปีสงครามยูเครน