
รัฐบาลสหรัฐหรือทำเนียบขาวภายใต้โดนัลด์ ทรัมป์ ไม่ให้สื่อหลายสำนักทำข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรีรอบแรก ตามนโยบายในการจัดระเบียบสื่อครั้งใหม่
รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า ทำเนียบขาวไม่ให้นักข่าวหลายคนจากหลายสำนักรวมถึงรอยเตอร์ เข้าทำข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรีรอบแรกของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เมื่อ 26 กุมภาพันธ์ เวลาท้องถิ่น ตามนโยบายใหม่ว่าด้วยการรายงานข่าวของสื่อมวลชนที่ทำเนียบขาวเป็นผู้จัดคิวและคัดเลือกสื่อเข้ารายงาน
สื่อที่ถูกปฏิเสธรวมถึงช่างภาพเอพี นักข่าว 3 คนจากรอยเตอร์ ฮัฟฟ์โพสต์ และแดร์ ทาเกสสปีเกล ซึ่งสื่อรายหลังสุดเป็นหนังสือพิมพ์ของเยอรมนี สำหรับนักข่าวที่ได้รับอนุญาตให้รายงานข่าวการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) รอบแรกนี้ได้แก่ ทีมงานทีวีจากเอบีซี และนิวส์แม็กซ์ รวมถึงนักข่าวจากแอ็กซีออสและเดอะ บลาส บลูมเบิร์กนิวส์ และเอ็นพีอาร์
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นไปตามที่รัฐบาลทรัมป์ประกาศเมื่อ 25 กุมภาพันธ์ เวลาท้องถิ่น ว่าทำเนียบขาวจะเป็นผู้ตัดสินใจว่าจะให้สื่อใดรายงานข่าวของประธานาธิบดีในพื้นที่ขนาดเล็ก เช่น ห้องทำงานรูปไข่ ซึ่งเป็นห้องทำงานอย่างเป็นทางการของประธานาธิบดีสหรัฐ
ที่ผ่านมา สมาคมผู้สื่อข่าวทำเนียบขาว (White House Correspondents’ Association หรือ WHCA ) เป็นผู้ประสานงานการหมุนเวียนนักข่าวประจำทำเนียบขาวมาโดยตลอด ตามระบบกลุ่มพูลข่าวเดิม ซึ่งบริหารโดย WHCA อนุญาตให้นักข่าวโทรทัศน์ วิทยุ หนังสือพิมพ์ และช่างภาพบางกลุ่มรายงานเหตุการณ์และแบ่งปันรายงานกับสื่ออื่นๆที่ไม่ได้รับอนุญาตให้เข้ารายงาน โดยสำนักข่าวรอยเตอร์ ซึ่งเป็นสำนักข่าวต่างประเทศที่ทำหน้าที่ส่งข่าวไปยังสื่ออื่นๆอีกที หรือไวร์ เซอร์วิส ได้เข้าร่วมในกลุ่มพูลของสื่อมาหลายทศวรรษแล้ว
แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวว่า องค์กรสื่อดั้งเดิมจะยังได้รับอนุญาตให้รายงานข่าวเกี่ยวกับทรัมป์ในแต่ละวัน แต่รัฐบาลมีแผนที่จะเปลี่ยนแปลงผู้รายงานข่าวในพื้นที่ที่มีขนาดเล็กขึ้น
ลีวิตต์กล่าวว่า เครือข่ายโทรทัศน์เคเบิลและโทรทัศน์หลักทั้ง 5 แห่งจะยังคงมีคิวแบบหมุนเวียนในกลุ่มพูลนี้ต่อไป และทำเนียบขาวจะเพิ่มบริการสตรีมมิ่งด้วย ส่วนนักข่าวที่หมุนเวียนจากสื่อสิ่งพิมพ์และวิทยุจะยังคงรวมอยู่ในกลุ่มพูลนี้ต่อไป ตลอดจนจะเพิ่มสื่อที่เป็นสถานีและพิธีกรรายการวิทยุใหม่ๆ เข้าไปอีกด้วย
ด้านสำนักข่าวสามแห่งที่ทำหน้าที่เป็นสมาชิกถาวรของสื่อสายทำเนียบขาวอยู่ในกลุ่มพูลทุกรอบการทำข่าว ได้แก่ เอพี, บลูมเบิร์ก และ รอยเตอร์ ได้ออกแถลงการณ์เกี่ยวกับนโยบายใหม่นี้ เมื่อ 26 กุมภาพันธ์ เวลาท้องถิ่น
แถลงการณ์จาก 3 องค์กรข่าวระบุว่า องค์กรข่าว 3 แห่งได้ทำงานมาอย่างยาวนานเพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลที่ถูกต้อง ยุติธรรม และทันท่วงทีเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของประธานาธิบดีจะถูกสื่อสารไปยังกลุ่มผู้ฟังที่หลากหลายจากทุกกลุ่มการเมือง ทั้งในสหรัฐอเมริกาและทั่วโลก การรายงานข่าวเกี่ยวกับทำเนียบขาวส่วนใหญ่ที่ผู้คนเห็นในสำนักข่าวท้องถิ่นในประเทศตนเอง ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดในโลก ล้วนมาจากสำนักข่าวที่เป็นไวร์ เซอร์วิส
“ในระบอบประชาธิปไตย ประชาชนจำเป็นต้องเข้าถึงข่าวสารเกี่ยวกับรัฐบาลของตนจากสื่ออิสระและเสรี” แถลงการณ์จาก 3 องค์กรข่าวระบุ
ก่อนหน้านี้ สมาคมสื่อทำเนียบขาวยังได้ออกแถลงการณ์ประท้วงนโยบายใหม่แล้วด้วย
การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่รัฐบาลทรัมป์ตัดสินใจห้ามไม่ให้สำนักข่าวเอพี อยู่ในกลุ่มพูลรอบนี้ เนื่องจากเอพีปฏิเสธที่จะเรียกอ่าวเม็กซิโกว่าอ่าวอเมริกา หรือแก้ไขชื่ออ่าวในคู่มือการใช้งานสำหรับการสื่อสารมวลชนและการเขียนข่าวของเอพี
ทั้งนี้ ในการประชุมคณะรัฐมนตรีรอบแรก รัฐบาลสหรัฐได้สั่งให้หน่วยงานรัฐบาลกลางดำเนินการเลิกจ้างเจ้าหน้าที่จำนวนมากขึ้น ในขณะที่ประธานาธิบดีทรัมป์มอบหมายให้อีลอน มัสก์ ผู้ที่มีบทบาทนำในการลดขนาดองค์กรภาครัฐ มีบทบาทโดดเด่นในการประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรก และหารือเกี่ยวกับเป้าหมายในการลดงบประมาณของภาครัฐเพิ่มเติมต่อไป