
นักวิจัยจากเฟดเตือน ภาษีทรัมป์ 2.0 กระทบเศรษฐกิจมากกว่าที่คิด หลังพบข้อมูลภาษีของจีนและสหรัฐไม่ตรงกัน
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า งานศึกษาใหม่ชี้ว่ากำแพงภาษีสินค้านำเข้าจากจีนของโดนัลด์ ทรัมป์ อาจส่งผลเสียต่อเศรษฐกิจอเมริกามากกว่าที่กรมศุลกากรสหรัฐแจ้งไว้
ตามรายงานการศึกษาของนักเศรษฐศาสตร์จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขานิวยอร์ก ระบุว่า ผลกระทบของการยกเลิกการกำหนด De Minimis หรือ การยกเว้นการจัดเก็บภาษีโดยกำหนดมูลค่าขั้นต่ำ ซึ่งสหรัฐกำหนดไว้ที่ 800 ดอลลาร์ (ราว 27,000 บาท)
ฮันเตอร์ แอล. คลาร์ก (Hunter L. Clark) นักวิจัยจากเฟดสาขานิวยอร์ก เขียนลงบนบล็อกโพสต์ของเฟดสาขานิวยอร์กเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2025 ว่า การนำเข้าสินค้าจากจีนของสหรัฐลดลงน้อยกว่าที่รายงานไว้ ดังนั้น ผลกระทบจากกำแพงภาษีที่สูงขึ้น จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจสหรัฐมากกว่าที่ทางการระบุไว้
การขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีนของสหรัฐที่เริ่มตั้งแต่สมัยรัฐบาลทรัมป์ 1.0 และสืบเนื่องมาจนรัฐบาลไบเดน มีผลทำให้สหรัฐนำเข้าสินค้าจากจีนลดลงมากน้อยเพียงไร คำตอบแตกต่างกันไปตามแต่ละประเทศ
ข้อมูลจากสหรัฐแสดงให้เห็นว่าสหรัฐนำเข้าสินค้าจากจีนน้อยลง เหลือเพียง 13.4% ของการนำเข้าทั้งหมดในปี 2024 จากที่เคยสูงถึง 21.6% ในปี 2018 ซึ่งลดลง 66,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.23 ล้านล้านบาท) ในแง่ตัวเงินเหลือเพียง 439,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 14.88 ล้านล้านบาท)
แต่ข้อมูลจากจีนแสดงให้เห็นต่างกัน โดยการส่งออกของจีนไปยังสหรัฐลดลง 91,200 ล้านดอลลาร์ (ราว 3.09 ล้านล้านบาท) ในแง่ตัวเงินเหลือ 524,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 17.77 ล้านล้านบาท)
คลาร์กระบุว่า สรุปง่าย ๆ สหรัฐทำการซื้อสินค้าจากจีนน้อยกว่าที่จีนแสดงข้อมูลการขายให้กับสหรัฐ ดังนั้น ผลกระทบของการปรับขึ้นกำแพงภาษีจึงน่าจะสูงกว่าที่คาดไว้