ยุโรปตั้ง ‘พันธมิตรแห่งความเต็มใจ’ ร่างแผนสันติภาพเสนอทรัมป์ ยอมเพิ่มงบกลาโหม

ภาพหมู่ในระหว่างการประชุมสุดยอดว่าด้วยยูเครนและความมั่นคงของยุโรป ที่แลงคาสเตอร์ เฮาส์ ในกรุงลอนดอน เมื่อ 2 มีนาคม 2025 (ภาพเคเนเดียน เพรสผ่านทาง AP )

ผลการประชุมสุดยอดผู้นำยุโรปและพันธมิตรจัดขึ้นที่อังกฤษว่าด้วยยูเครนและความมั่นคงในยุโรป ผู้นำเห็นพ้องตั้งแนวร่วมของกลุ่มผู้สมัครใจนำโดยยุโรปที่จะร่างแผนสันติภาพเสนอทรัมป์ และเพิ่มงบป้องกันยุโรปในระยะยาว

รอยเตอร์ (Reuters) และเอพี (AP) รายงานว่า เคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ในฐานะเจ้าภาพการประชุมผู้นำยุโรปและพันธมิตร 18 คน รวมถึงประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนแถลงผลการประชุมเกี่ยวกับยูเครนและความมั่นคงยุโรปเมื่อวันอาทิตย์ที่ 2 มีนาคม ว่า ผู้นำชาติยุโรปเห็นพ้องที่จะร่างแผนสันติภาพยูเครนเพื่อนำเสนอต่อสหรัฐ ซึ่งเป็นก้าวสำคัญสำหรับรัฐบาลสหรัฐที่จะสามารถเสนอหลักประกันรับรองความปลอดภัย ซึ่งรัฐบาลยูเครนระบุว่าเป็นสิ่งจำเป็นที่จะป้องปรามรัสเซีย

ในการประชุมที่กรุงลอนดอน ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ เซเลนสกี ปะทะกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐในการเยือนสหรัฐและทำให้ต้องกลับยุโรปก่อนกำหนดการ วึ่งในเหตุการณ์นี้ทำให้ผู้นำประเทศยุโรปได้แสดงการสนับสนุนประธานาธิบดียูเครนอย่างแข็งขันและสัญญาว่าจะช่วยเหลือประเทศยูเครนให้มากขึ้น

ผู้นำยุโรปเห็นพ้องต้องกันว่ายุโรปต้องเพิ่มงบด้านการป้องกันประเทศมากขึ้นเพื่อแสดงให้ทรัมป์เห็นว่าทวีปนี้สามารถปกป้องตัวเองได้ และประธานคณะกรรมาธิการยุโรปแนะว่าสหภาพยุโรปอาจผ่อนปรนกฎเกณฑ์ที่จำกัดระดับหนี้สิน

สตาร์เมอร์ กล่าวว่าอังกฤษ ยูเครน ฝรั่งเศส และประเทศอื่นๆ จะจัดตั้ง “พันธมิตรแห่งความเต็มใจ ” ซึ่งเป็นแนวร่วมของกลุ่มผู้สมัครใจนำโดยยุโรป ซึ่งจะร่างแผนสันติภาพเพื่อนำไปเสนอต่อทรัมป์และบอกอีกว่า ไม่ใช่ช่วงเวลาสำหรับการพูดคุยเพิ่มเติม แต่เป็นเวลาที่จะลงมือทำ ถึงเวลาที่ยุโรปจะก้าวขึ้นมาเป็นผู้นำ และรวมตัวกันเพื่อแผนใหม่เพื่อสันติภาพที่ยุติธรรมและยั่งยืน

สตาร์เมอร์สรุปสาระสำคัญที่ผู้นำยุโรปได้ตกลงกันมี 4 ประเด็น ดังนี้

ADVERTISMENT

1) คงความช่วยเหลือทางทหารแก่ยูเครน และเพิ่มแรงกดดันทางเศรษฐกิจต่อรัสเซียต่อเนื่อง

2) สันติภาพที่ยั่งยืนใดๆ จะต้องมีการรับประกันอธิปไตยและความมั่นคงของยูเครน และยูเครนจะต้องเข้าร่วมการเจรจาสันติภาพใดๆ ก็ตามที่จะมีขึ้นในอนาคต

ADVERTISMENT

3) ในกรณีที่มีข้อตกลงสันติภาพเกิดขึ้น จะต้องมีการเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันของยูเครนเพื่อขัดขวางการรุกรานในอนาคต

4) พัฒนา “พันธมิตรแห่งความเต็มใจ” เพื่อปกป้องข้อตกลงต่างๆเกี่ยวกับยูเครน และเพื่อรับประกันสันติภาพในภายหลัง

 

อย่างไรก็ตาม ผู้นำยุโรปไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับแผนการ

ก่อนการประชุม เอ็มมานูเอล มาครง ประธานาธิบดีฝรั่งเศส กล่าวกับหนังสือพิมพ์เลอ ฟิกาโร ว่าแผนดังกล่าวจะเกี่ยวข้องกับการหยุดยิงเป็นเวลา 1 เดือน ซึ่งจะใช้กับการโจมตีทางอากาศและทางทะเล แต่ครอบคลุมการต่อสู้ทางภาคพื้นดิน และหากสามารถบรรลุข้อตกลงสันติภาพที่มีสาระสำคัญกว่านี้ กองกำลังยุโรปจะถูกส่งไปประจำการ

เซเลนสกีกล่าวกับผู้สื่อข่าวว่ายูเครนจะไม่ยกดินแดนใด ๆ ให้กับรัสเซียตามข้อตกลงสันติภาพ และเขายังคงเต็มใจที่จะลงนามข้อตกลงแร่กับสหรัฐอยู่ ซึ่งเซเลนสกีกล่าวว่า เขาเชื่อว่าสามารถกอบกู้ความสัมพันธ์กับทรัมป์ได้หลังจากการโต้เถียงกัน แต่การเจรจาจะต้องเกิดขึ้นแบบปิด

เปลี่ยนยูเครน “เม่นเหล็ก”

ยุโรปกำลังดิ้นรนเพื่อให้แน่ใจว่ารัฐบาลยูเครนจะไม่ถูกบีบให้ออกจากการเจรจาใดๆ หลังจากหตุการณ์โต้เถียงระหว่างทรัมป์และเซเลนสกี ทำให้เกิดความกลัวว่าสหรัฐอาจถอนการสนับสนุนยูเครนและบังคับใช้แผนสันติภาพที่สหรัฐเจรจากับรัสเซีย ส่งผลให้ผู้นำยุโรปหลายคนบอกว่าพวกเขาจะต้องเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหม ซึ่งอาจช่วยดึงทรัมป์ให้เข้ามาร่วมให้การรับประกันความมั่นคงแก่ยุโรป

“หลังจากการลงทุนด้านกลาโหมไม่เพียงพอเป็นเวลานาน ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือการเพิ่มการลงทุนด้านกลาโหมในระยะยาว” เออร์ซูลา ฟอน เดอร์ ไลเอิน ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารของสหภาพยุโรป กล่าวกับผู้สื่อข่าวและกล่าวว่า ยุโรปจำเป็นต้องเปลี่ยนยูเครนให้กลายเป็นเม่นเหล็กที่ย่อยไม่ได้สำหรับผู้รุกรานในอนาคต

เงื่อนไขสถานการณ์ในขณะนี้ ยุโรป ซึ่งขาดอาวุธและคลังกระสุนจำนวนมากหวังที่จะโน้มน้าวใจทรัมป์ว่าตนสามารถปกป้องตัวเองได้ แต่รัสเซียจะยึดมั่นตามข้อตกลงสันติภาพก็ต่อเมื่อได้รับการสนับสนุนจากสหรัฐเท่านั้น

ทั้งนี้ การเจรจากับสหรัฐเน้นไปที่การให้สหรัฐจัดหาสิ่งที่เรียกว่า “จุดพักชั่วคราว” สำหรับบทบาทการรักษาสันติภาพของยุโรป ซึ่งอาจอยู่ในรูปแบบของการปกป้องทางอากาศ การข่าวกรองและการเฝ้าระวัง และอาจรวมถึงภัยคุกคามที่ใหญ่กว่า หากวลาดิมีร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย พยายามยึดดินแดนเพิ่มอีก