3 ข้อควรรู้ จีนเปิดประชุม 2 สภา กำหนดวาระชาติ

หลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีนขณะกล่าวปราศรัยเปิดการประชุมสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) ที่อาคารมหาศาลาประชาชน ในกรุงปักกิ่ง เมื่อ 5 มีนาคม 2024 (แฟ้มภาพจากเอพี)

จีนเตรียมเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (NPC) และสภาที่ปรึกษาทางการเมือง (CPPCC) จะประชุมกันที่กรุงปักกิ่งในสัปดาห์นี้ เพื่อกำหนดวาระสำคัญประจำปี ขณะที่เศรษฐกิจอันดับสองของโลกกำลังเผชิญกับสงครามการค้าที่รุนแรงยิ่งขึ้นกับมหาอำนาจอันดับหนึ่งอย่างสหรัฐ

ผู้กำหนดนโยบายของจีนให้คำมั่นว่าจะกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ แต่ความพยายามในการควบคุมการลดลงของราคาบ้านที่บั่นทอนความเชื่อมั่นและแก้ไขปัญหาเงินสดขาดแคลนในรัฐบาลมณฑลยังไม่ประสบผลสำเร็จ

การประชุมสองสภาอาจให้ร่องรอยหรือเบาะแสเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนของผู้นำจีนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้ผ่านช่วงที่ผันผวนนี้ ต่อไปนี้คือ 3 สิ่งที่ควรทราบเกี่ยวกับกระบวนการดังกล่าว

การประชุมสองสภาคืออะไร

การประชุมสองสภาเป็นการประชุมประจำปีของสภาประชาชนแห่งชาติ (NPC) ซึ่งเป็นสภานิติบัญญัติของจีน และสภาที่ปรึกษาการเมืองของประชาชนจีน (CPPCC) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ปรึกษาทางการเมืองระดับสูงสุด ผู้แทนหลายพันคนจะมารวมตัวกันโดยนัดหมายที่กรุงปักกิ่งเพื่อเข้าร่วมการประชุม ซึ่งโดยปกติจะใช้เวลา 1-2 สัปดาห์ ซึ่งการประชุม CPPCC จะเริ่มในวันที่ 4 มีนาคม ตามด้วยการประชุม NPC ในวันถัดไป คือ 5 มีนาคม

ในวันแรกของการประชุม NPC นายหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีนจะรายงานการทำงานของรัฐบาล ซึ่งระบุถึงลำดับความสำคัญของนโยบายสำหรับปีหน้า คาดว่าจะเปิดเผยเป้าหมายสำคัญ เช่น อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อ และการขาดดุลงบประมาณ

ผู้แทนจะหารือเกี่ยวกับรายงานการทำงาน ร่างกฎหมาย และเอกสารอื่นๆ และลงคะแนนเสียงเพื่ออนุมัติ คาดว่าจะผ่านด้วยคะแนนเสียงเกือบเป็นเอกฉันท์ เนื่องจากพรรคคอมมิวนิสต์ควบคุมรัฐบาล

ADVERTISMENT

นิส กรุนเบิร์ก นักวิเคราะห์นำในทีมวิจัยการเมืองและสังคมที่สถาบันเมอร์เคเตอร์เพื่อการศึกษาด้านจีนกล่าวว่า สภานิติบัญญัติยังคงเป็นเวทีสำคัญสำหรับการพิจารณาและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างรัฐบาลกลางปักกิ่งและรัฐบาลมณฑล แต่การตัดสินใจสำคัญทั้งหมดถูกกำหนดไว้ล่วงหน้าแล้วในองค์กรที่สำคัญกว่าของพรรคคอมมิวนิสต์จีน เช่น การประชุมการทำงานด้านเศรษฐกิจกลางและการประชุมใหญ่ครั้งที่สามของคณะกรรมการกลาง

อย่างไรก็ตาม การประชุม NPC สามารถให้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญได้

ADVERTISMENT

ยกตัวอย่าง เมื่อปีที่แล้ว นายกรัฐมนตรีหลี่ได้แหวกประเพณีด้วยการยกเลิกการแถลงข่าวตามธรรมเนียมในช่วงปิดสมัยประชุม และพรรคคอมมิวนิสต์จีนยังอนุมัติการแก้ไขกฎหมายที่ให้พรรคคอมมิวนิสต์มีอำนาจควบคุมคณะรัฐมนตรี ซึ่งเป็นรัฐบาลกลางของจีนมากขึ้น การเคลื่อนไหวดังกล่าวยิ่งตอกย้ำถึงการรวมอำนาจไว้ในมือของสี จิ้นผิง ซึ่งดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน คราวละ 5 ปี ซึ่งถือเป็นวาระที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

มีวาระอะไรอีกบ้าง?

การประชุมเศรษฐกิจกลางของพรรคคอมมิวนิสต์ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการกำหนดทิศทางของการประชุมทั้งสองสภา ได้กำหนดให้การกระตุ้นการบริโภคเป็นลำดับความสำคัญสูงสุดในปีนี้ สิ่งที่ต้องจับตาคือ รัฐบาลจีนวางแผนที่จะบรรลุเป้าหมายนี้อย่างไร

เมื่อปีที่แล้ว รัฐบาลได้เริ่มออกนโยบายบางอย่างเพื่อแก้ไขข้อกังวลเกี่ยวกับโอกาสในการทำงานที่อ่อนแอและความมั่งคั่งของครัวเรือนที่ลดลง เช่น การอุดหนุนการซื้อรถยนต์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และแรงจูงใจให้สถาบันการเงินซื้อหุ้นจีน นักเศรษฐศาสตร์กล่าวว่าการเคลื่อนไหวดังกล่าวช่วยให้บรรลุเป้าหมายการเติบโต (จีดีพี) ของประเทศที่ประมาณ 5% ตามที่ทางการตั้งเป้าไว้ แต่จะต้องมีมาตรการเพิ่มเติมเพื่อปรับปรุงความเชื่อมั่น

ร่างกฎหมายที่อาจมีการอภิปรายในที่ประชุม NPC คือ ร่างกฎหมายส่งเสริมเศรษฐกิจเอกชน ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อเพิ่มการปฏิบัติที่เท่าเทียมกันและการคุ้มครองทางกฎหมายสำหรับภาคเอกชน เป็นผลจากเมื่อวันที่ 17 กุมภาพันธ์ สี จิ้นผิง ผู้นำจีนได้พบปะกับบุคคลสำคัญในแวดวงธุรกิจจีนหลายคน หลังจากที่มีการเปิดตัวระบบ AI ใหม่ของ DeepSeek ซึ่งดึงดูดความสนใจจากทั่วโลกต่อความสามารถทางเทคโนโลยีที่เติบโตขึ้นของประเทศ

เรื่องอื่นๆ ที่ต้องจับตามอง ได้แก่ งบประมาณทหารและรายละเอียดเกี่ยวกับทิศทางนโยบายต่างประเทศของจีนจากหวัง อี้ นักการทูตระดับสูงที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักคณะกรรมาธิการกิจการต่างประเทศส่วนกลางแห่งพรรคคอมมิวนิสต์และรมว.การต่างประเทศ นอกจากนี้ ผู้สังเกตการณ์ยังเฝ้าติดตามความเห็นโดยตรงจากสีเอง โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับความสัมพันธ์จีน-สหรัฐ

ทรัมป์จะกำหนดแนวทางการดำเนินการนี้ได้อย่างไร

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐประกาศว่าจะจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจีนเพิ่มอีก 10% ในวันที่ 4 มีนาคม ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นการประชุมสภา นอกเหนือไปจากภาษีนำเข้าเพิ่มเติมรอบแรก 10% ที่มีผลบังคับใช้ไปแล้วเมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ ซึ่งทำให้จีนตอบโต้ด้วยการเก็บภาษีแบบกำหนดเป้าหมาย และภาษีอื่นๆ ที่มีอยู่ในอัตรา 10-15 %

“หากไม่มีการพลิกกลับในนาทีสุดท้าย ซึ่งเป็นไปได้เสมอหากทรัมป์ทำแบบนั้น สองฝ่ายตัดสินใจที่จะแข่งขันกันอย่างดุเดือดมากขึ้น และสงครามการค้าโลกที่สำคัญที่สุดในรอบเกือบ 100 ปีก็อาจเกิดขึ้นได้” สตีเฟน โอลสัน นักวิจัยอาวุโสประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษาแห่งสิงคโปร์ และอดีตผู้เจรจาการค้าของสหรัฐกล่าว ภายหลังการขู่เก็บภาษีศุลกากรครั้งล่าสุดของทรัมป์

โอลสันกล่าวว่าแม้ว่าภาษีศุลกากรพิเศษ 10% รอบแรกที่เรียกเก็บจากจีนนั้นสามารถจัดการได้ในระดับหนึ่ง แต่การเรียกเก็บภาษีศุลกากรเพิ่มเป็นสองเท่าจะมีปัญหาหนักกว่ามาก และอาจทำให้จีนตอบโต้อย่างรุนแรง ได้ ซึ่งโกลบอลไทม์ส สื่อกระบอกเสียงของรัฐบาลจีนรายงานอ้างแหล่งข่าวว่า เจ้าหน้าที่จีนกำลังกำหนดมาตรการตอบโต้ที่เกี่ยวข้อง ซึ่งอาจรวมถึงทั้งภาษีศุลกากรและการดำเนินการที่ไม่ใช่ภาษีศุลกากร และจึงทำให้สินค้าเกษตรและอาหารของสหรัฐน่าจะถูกขึ้นบัญชีเป็นการตอบโต้

การที่ความขัดแย้งทางการค้าทวีความรุนแรงขึ้นคุกคามภาคการส่งออกของจีน และทำให้รัฐบาลต้องเร่งกระตุ้นการบริโภคในประเทศมากขึ้น อย่างไรก็ตาม บางคนคาดว่าโยบายจะมีความชัดเจนมากขึ้น เมื่อรู้ว่าความสัมพันธ์กับสหรัฐจะเป็นอย่างไร

หวาง เตา หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ด้านจีนของ UBS คาดการณ์ว่าจะมีการออกนโยบายสนับสนุนเพิ่มเติมอย่างค่อยเป็นค่อยไปนอกเหนือจากมาตรการใน NPC ตลอดปี 2025 ในกรณีที่เกิดแรงกระแทกจากต่างประเทศที่รุนแรงกว่านี้

มาตรการที่คาดว่าจะเกิดขึ้นจะช่วยรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนได้หรือไม่ นักวิเคราะห์กล่าวว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมอาจช่วยให้จีนบรรลุเป้าหมายการเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2025 ได้ ซึ่งดันแคน ริกลีย์ หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ด้านจีนของบริษัทแพนทีออน (Pantheon) กล่าวว่าโครงการอุดหนุนผู้บริโภคที่ขยายออกไปอาจช่วยเพิ่ม GDP ได้ประมาณ 0.8 % แต่หากขอบเขตของโครงการยังคงเหมือนเดิม ผลกระทบต่อเศรษฐกิจก็จะหมดไปในที่สุด เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่ซื้อรถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า หรือสมาร์ตโฟนใหม่จะไม่ซื้ออีกในปีหน้า

รัฐบาลอาจเพิ่มเงินบำนาญหรือประกันสุขภาพ ในขณะที่ธนาคารกลางให้คำมั่นว่าจะลดอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตาม นักวิจารณ์กล่าวว่ามาตรการเพิ่มเติมเหล่านี้ไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาในระยะยาว เช่น ประชากรสูงอายุที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว หนี้ที่พุ่งสูงขึ้น และการสร้างอุตสาหกรรมใหม่ที่สามารถทดแทนงานที่สูญเสียไปในภาคส่วนที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ นักเศรษฐศาสตร์ส่วนใหญ่คาดว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงอีกในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

เมื่อการประชุมสองสมัยสิ้นสุดลง ผู้สังเกตการณ์จะหันความสนใจไปที่การดำเนินนโยบาย รวมถึงวิธีที่รัฐบาลจีนต่อสู้กับทรัมป์ พรรคคอมมิวนิสต์กำลังร่างแผน 5 ปีฉบับใหม่ ซึ่งแผนจะเริ่มตั้งแต่ปี 2026 ซึ่งจะระบุถึงเป้าหมายในระยะยาวยิ่งกว่า

อ้างอิง :

• Nikkei Asia

• Reuters