
สหรัฐระงับความช่วยเหลือทางทหารทั้งหมดแก่ยูเครนชั่วคราว ภายหลังจากเซเลนสกี ผู้นำยูเครนกล่าวกับสื่อว่าการยุติสงครามยังอีกยาวไกลอย่างมาก
รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า เจ้าหน้าที่ทำเนียบขาวระดับสูงกล่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐระงับให้ความช่วยเหลือทางทหารทั้งหมดแก่ยูเครนชั่วคราว ภายหลังจากการประชุมระหว่างประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน ประสบความล้มเหลวเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
เจ้าหน้าที่สหรัฐที่ไม่ต้องการให้เปิดเผยชื่อยืนยันว่า ประธานาธิบดีทรัมป์มีจุดยืนชัดเจนที่ต้องการมุ่งเน้นให้เกิดสันติภาพ สหรัฐต้องการให้หุ้นส่วนมุ่งมั่นในจุดประสงค์ดังกล่าวเช่นเดียวกัน และกำลังทบทวนความช่วยเหลือของสหรัฐ เพื่อให้แน่ใจว่าความช่วยเหลือดังกล่าวมีส่วนทำให้เกิดสันติภาพ
การระงับความช่วยเหลือทางทหารทั้งหมดยังคงมีผลจนกว่าประธานาธิบดีทรัมป์จะตัดสินใจว่ายูเครนแสดงเจตจำนงต่อการเจรจาสันติภาพด้วยความจริงใจ
การเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากที่ทรัมป์พลิกนโยบายของสหรัฐที่มีต่อยูเครนและรัสเซียเมื่อเข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยแสดงท่าทีปรองดองมากขึ้นต่อรัสเซีย และหลังจากการเผชิญหน้าอย่างดุเดือดกับเซเลนสกีที่ทำเนียบขาวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ซึ่งทรัมป์ได้วิพากษ์วิจารณ์เซเลนสกีว่า เขาไม่รู้สึกขอบคุณอย่างเพียงพอสำหรับการสนับสนุนของสหรัฐในการทำสงครามกับรัสเซีย
และต่อมาในวันจันทร์ที่ 3 มีนาคม เวลาท้องถิ่น ทรัมป์กล่าวอีกครั้งว่า เซเลนสกีควรรู้สึกขอบคุณการสนับสนุนของอเมริกาให้มากขึ้น และตอบโต้ด้วยความโกรธต่อรายงานของสำนักข่าวเอพีที่อ้างคำพูดของเซเลนสกี ว่าการสิ้นสุดลงของสงครามยังอีกยาวไกลอย่างมาก
“นี่คือคำกล่าวที่เลวร้ายที่สุดที่เซเลนสกีเคยพูดออกมา และอเมริกาจะไม่ยอมทนกับเรื่องนี้อีกต่อไป” ทรัมป์เขียนบนทรูท โซเชียล (Truth Social)
สหรัฐเป็นแหล่งความช่วยเหลือทางการทหารที่ใหญ่ที่สุดสำหรับยูเครน ไม่ว่าจะเป็นอาวุธยุทโธปกรณ์ และการสนับสนุนทางการเงิน นับตั้งแต่ที่รัสเซียเปิดฉากการรุกรานเต็มรูปแบบเมื่อ 3 ปีก่อน
ขณะเดียวกัน นายเคียร์ สตาร์เมอร์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ ประกาศแผน 4 ประการในการทำงานร่วมกับยูเครน เพื่อยุติสงครามและปกป้องยูเครนจากรัสเซียในการประชุมผู้นำยุโรปและพันธมิตรเมื่อ 2 มีนาคมที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ผู้นำยุโรประบุว่าพวกเขาไม่สามารถรับประกันสันติภาพในยูเครนได้ หากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากสหรัฐ
แต่ทรัมป์ก็ยังชี้ว่าข้อตกลงแร่ที่เปิดทางให้สหรัฐลงทุนในแร่ของยูเครนยังอาจบรรลุได้อยู่ แม้ตนเองไม่พอใจรัฐบาลยูเครนก็ตาม
รัฐบาลทรัมป์มองว่าข้อตกลงแร่เป็นหนทางที่อเมริกาจะได้เงินคืนมาบางส่วน หลังจากสหรัฐได้มอบเงินหลายแสนล้านดอลลาร์แก่ยูเครน ทั้งความช่วยเหลือทางการเงินและทางทหารตั้งแต่ถูกรัสเซียบุกเมื่อสามปีก่อน