
จากกรณีกองทัพรัสเซียได้ยิงขีปนาวุธ 67 ลูกและโดรนเกือบ 200 ลำไปที่ยูเครนเมื่อคืนวันที่ 7 มีนาคมที่ผ่านมา เวลาท้องถิ่น ทำให้โครงสร้างพื้นฐานก๊าซและพลังงานยูเครนเสียหาย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐเรียกร้องให้ยูเครนและรัสเซียเจรจายุติสงคราม มิฉะนั้นรัสเซียจะถูกแซงก์ชั่นครั้งใหญ่
จากข้อเท็จจริงที่รัสเซียกำลังโจมตียูเครนอย่างหนักในสนามรบ ทรัมป์บอกว่าเขากำลังพิจารณาการบังคับใช้แซงก์ชั่น (มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจ) ครั้งใหญ่รวมถึงการธนาคาร ภาษีศุลกากร จนกว่าจะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงและข้อตกลงยุติข้อพิพาทขั้นสุดท้าย ซึ่งแหล่งข่าวเผยว่า บริษัทน้ำมันของรัสเซียอาจตกเป็นเป้าหมายถูกคว่ำบาตรครั้งนี้
แหล่งข่าวระบุว่า กระทรวงการคลังของสหรัฐกำลังพิจารณาการคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันและผู้ให้บริการบ่อน้ำมันรัสเซีย โดยเป็นการตอกย้ำมาตรการที่รัฐบาลของอดีตประธานาธิบดีโจ ไบเดนได้ดำเนินการไปแล้วเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา
รัสเซีย ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกถูกคว่ำบาตรมากกว่า 20,000 มาตรการ ซึ่งบังคับใช้โดยสหรัฐและพันธมิตร หลังจากที่รัสเซียบุกยูเครนเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2022
สหรัฐประเทศเดียวได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียไปแล้ว 6,433 มาตรการตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2022 โดยมาตรการจากประเทศอื่นๆ รวมถึงอังกฤษ ออสเตรเลีย สหภาพยุโรป (อียู) และแคนาดา ได้เพิ่มเป็น 21,692 มาตรการในปัจจุบัน อ้างอิงตามข้อมูลที่จัดทำโดย Castellum.AI ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มรวบรวมข้อมูลการคว่ำบาตร รวมถึงความเสี่ยงและการปฏิบัติตามกฎระเบียบทั่วโลกโลก ผ่านทางรอยเตอร์
มาตรการคว่ำบาตรรัสเซียของสหรัฐรวมถึงมาตรการที่มุ่งจำกัดรายได้จากน้ำมันและก๊าซ ตลอดจนการจำกัดการส่งออกน้ำมันของรัสเซียไว้ไม่เกิน 60 ดอลลาร์ (ราว 2,000 บาท) ต่อบาร์เรล
ในช่วงสัปดาห์สุดท้ายของการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดี ไบเดนยังได้คว่ำบาตรบริษัทพลังงานและเรือของรัสเซียที่ขนส่งน้ำมันจากรัสเซีย ตามมาด้วยการคว่ำบาตรเป้าหมาย 250 แห่ง ซึ่งรวมถึงบางแห่งที่ตั้งอยู่ในจีน เพื่อปราบปรามการที่รัสเซียหลบเลี่ยงการคว่ำบาตรของสหรัฐก่อนหน้านี้ มาตรการดังกล่าวรวมถึงการคว่ำบาตรใหม่ต่อหน่วยงานสำคัญของรัสเซียเกือบ 100 แห่ง ซึ่งรวมถึงธนาคารและบริษัทที่ดำเนินการในภาคพลังงานของประเทศ ซึ่งก่อนหน้านี้ถูกสหรัฐคว่ำบาตรไปแล้ว ทำให้มีความเสี่ยงที่หน่วยงานเหล่านี้จะถูกคว่ำบาตรอีกครั้งด้วย
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นภายหลังจากที่สหรัฐประกาศระงับความช่วยเหลือทางทหารและแชร์ข่าวกรองแก่ยูเครนเป็นการชั่วคราว เพื่อกดดันให้ยูเครนร่วมมือกับสหรัฐเพื่อเจรจาสันติภาพกับรัสเซีย โดยเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทรัมป์และโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนถกเถียงเกี่ยวกับการจาสันติภาพสงครามยูเครนอย่างดุเดือดที่ทำเนียบขาว จบด้วยเซเลนสกีกลับยุโรปก่อนกำหนดและไม่ได้ลงนามในข้อตกลงแร่ที่อนุญาตให้สหรัฐเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติรวมถึงแร่แรร์เอิร์ธของยูเครน