กำแพงภาษีแห่งอเมริกาเหนือ ปรากฏเค้าลาง สหรัฐ-แคนาดา-เม็กซิโกกีดกันสินค้าจีน ?

โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ ,จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา ,สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน และคลอเดีย เชนบาม ประธานาธิบดีเม็กซิโก (ภาพ เอพี)

กรณีจีนประกาศจัดเก็บภาษีสินค้าเกษตรและอาหารของแคนาดามูลค่ากว่า 2.6 พันล้านดอลลาร์ (ราว 87,000 ล้านบาท) เมื่อ 8 มีนาคม 2025 เพื่อตอบโต้การจัดเก็บภาษีที่รัฐบาลแคนาดาประกาศเมื่อเดือนตุลาคมปี 2024 และเปิดแนวรบใหม่ในสงครามการค้า ซึ่งส่วนใหญ่มาจากคำขู่ขึ้นภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ

ประกอบกับการที่ทรัมป์เลื่อนการเก็บภาษีรถยนต์กับทางแคนาดาและเม็กซิโกและสินค้าอื่น ๆ ไปอีก 1 เดือน ตามข้อตกลงการค้าเสรีสหรัฐ แคนาดา และเม็กซิโก (USMCA) จากกำหนดเดิม 4 มีนาคม ซึ่งจะมีผลพร้อมกับจีน ซึ่งก่อนหน้านี้สหรัฐเลื่อนเก็บภาษี 25% แก่แคนาดาและเม็กซิโกไปแล้วรอบหนึ่ง เนื่องจากสองชาติเพื่อนบ้านดำเนินการเพิ่มมาตรการเข้มงวดความปลอดภัยชายแดน แต่เก็บภาษีจีนสองรอบแบบถ้วนหน้าเป็น 20% ตามกำหนดเดิม

การประกาศเลื่อนของทรัมป์ตามมาด้วยการขานรับของคลอเดีย เชนบาม ประธานาธิบดีเม็กซิโกที่ประกาศว่าเม็กซิโกจะทบทวนมาตรการภาษีศุลกากรสินค้าจากจีน ซึ่งอาจช่วยให้สหรัฐสามารถตั้งกำแพงภาษีแห่งอเมริกาเหนือ เพื่อกีดกันสินค้าจากจีนได้สำเร็จ โดยชี้ว่าสินค้าจีนที่หลั่งไหลเข้ามาทำให้เม็กซิโกต้องมีปัญหาการผลิตในภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอและรองเท้า

การจัดเก็บภาษีรอบใหม่ของจีนต่อแคนาดา ซึ่งประกาศโดยกระทรวงพาณิชย์จีนและมีกำหนดจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 20 มีนาคมนี้ เท่ากับอัตราภาษีนำเข้า 100% และ 25% ที่แคนาดาเรียกเก็บจากรถยนต์ไฟฟ้า (อีวี) และผลิตภัณฑ์เหล็กและอะลูมิเนียมที่ผลิตในจีนตามลำดับเมื่อกว่า 4 เดือนที่แล้ว

แม้การยกเว้นภาษีคาโนลา หรือเรพซีด ซึ่งเป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกหลักของแคนาดาไปยังผู้นำเข้าสินค้าเกษตรรายใหญ่ที่สุดของโลกอย่างจีน ก่อนที่จีนจะสอบสวนเรื่องการทุ่มตลาดเมื่อปีที่แล้ว อาจมองได้ว่าจีนเปิดประตูสำหรับการเจรจาการค้า

แต่นักวิเคราะห์ยังกล่าวว่า ภาษีศุลกากรดังกล่าวยังทำหน้าที่เป็นการเตือนด้วย โดยรัฐบาลทรัมป์ได้ส่งสัญญาณว่าอาจผ่อนปรนภาษีนำเข้า 25% ที่ขู่เรียกเก็บแคนาดาและเม็กซิโก หากทั้งสองประเทศเรียกเก็บภาษีเพิ่ม 20% กับจีนเหมือนกับที่ประธานาธิบดีทรัมป์เรียกเก็บจากสินค้าจีน เนื่องจากจีนลักลอบนำเข้าสารตั้งต้นยาเสพติดอย่างเฟนทานิลเข้ามาในดินแดนสหรัฐ ผ่านแคนาดาและเม็กซิโก

ADVERTISMENT

สำหรับภาษีรอบใหม่จีนจะเรียกเก็บภาษีนำเข้า 100% สำหรับน้ำมันเรพซีด กากน้ำมัน และถั่วลันเตาของแคนาดาที่มีมูลค่ารวมกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 33,000 ล้านบาท) และเรียกเก็บภาษีนำเข้า 25% สำหรับผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำและเนื้อหมูของแคนาดาที่มีมูลค่า 1,600 ล้านดอลลาร์ (53,000 ล้านบาท)

แดน หว่อง กรรมการบริหารฝ่ายจีนของยูโรเซีย กรุ๊ป (Eurasia Group) ในสิงคโปร์กล่าวว่า การที่จีนเริ่มดำเนินการในตอนนี้ หลังแคนาดาเรียกเก็บภาษีจีนไปแล้วเมื่อ 4 เดือนก่อน เป็นการเตือนให้แคนาดาตระหนักถึงต้นทุนของการยึดมั่นกับนโยบายการค้าของอเมริกามากเกินไป

ADVERTISMENT

นอกจากนี้ การตอบโต้ที่ล่าช้าของจีนต่อแคนาดาอาจสะท้อนถึงทั้งข้อจำกัดด้านกำลังการผลิตและการส่งสัญญาณเชิงกลยุทธ์ และระบุว่ากระทรวงพาณิชย์จีนกำลังทำงานหนักเกินไป โดยต้องรับมือกับข้อพิพาททางการค้ากับสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป ทำให้แคนาดาซึ่งได้รับการจัดลำดับความสำคัญที่ต่ำกว่าจะต้องรอคิว

ตามข้อมูลศุลกากรของจีนในปี 2024 จีนเป็นพันธมิตรทางการค้ารายใหญ่เป็นอันดับสองของแคนาดา ตามหลังสหรัฐอเมริกาอยู่มาก แคนาดาส่งออกสินค้ามูลค่า 47,000 ล้านดอลลาร์ (1.5 ล้านล้านบาท) ไปยังจีน จีนเป็นตลาดส่งออกเนื้อหมูที่สำคัญเป็นอันดับสามของแคนาดา โดย แคม ดาห์ล ผู้จัดการทั่วไปของสภาเนื้อหมูแมนิโทบา กล่าวว่า จีนเลือกเก็บภาษีในสินค้าที่แคนาดาไม่มีตลาดทางเลือกอื่น

จึงอาจมองได้ว่า การเลื่อนเก็บภาษีของรัฐบาลสหรัฐต่อแคนาดาและเม็กซิโก เพื่อนบ้านทางเหนือและใต้ตามลำดับออกไปอย่างน้อย 2 รอบ ด้วยเหตุผลต่าง ๆ อาจเป็นการหาพันธมิตรเพื่อตั้งป้อมปราการภาษีแห่งแดน (อเมริกา) เหนือ ที่มีเป้าหมาย (อย่างน้อยในมุมของจีน) คือการกีดกันสินค้านำเข้าจากจีน