“มาร์ก คาร์นีย์” ว่าที่นายกฯแคนาดา ความหวังห้วงทรัมป์คุกคามการค้า-อธิปไตย

มาร์ก คาร์นีย์ กล่าวสุนทรพจน์หลังจากชนะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเสรีนิยมที่ปกครองแคนาดา และจะเข้ามาดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแทนจัสติน ทรูโด ในเมืองออตตาวา รัฐออนแทรีโอ ประเทศแคนาดา เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2025 (ภาพ รอยเตอร์ )

มาร์ก คาร์นีย์ ชนะการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคเสรีนิยมของแคนาดา เตรียมขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี เคยเป็นอดีตผู้ว่าการธนาคารกลางเข้ารับตำแหน่งในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำ ประกาศรับมือจากกรณีทรัมป์ขู่ขึ้นภาษีและคุกคามอำนาจอธิปไตย

บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า มาร์ก คาร์นีย์ อดีตผู้ว่าธนาคารกลางแคนาดาได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรคลิเบอรัลหรือเสรีนิยมและเตรียมขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแคนาดาคนใหม่ภายในไม่กี่วันนับจากนี้ แทนจัสติน ทรูโด ที่ประกาศอำลาตำแหน่ง ทำให้อดีตนายธนาคารกลางผู้นี้ เข้ามาบริหารประเทศในสถานการณ์ที่โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐคุกคามอนาคตทางเศรษฐกิจของแคนาดา

คาร์นีย์วัย 59 ปี อดีตผู้ว่าแบงก์ชาติแคนาดาและอังกฤษชนะการแข่งขันเลือกตั้งหัวหน้าพรรคได้คะแนนราว 86 % เมื่อ 9 มีนาคม เวลาท้องถิ่น และอาจกำหนดให้จัดเลือกตั้งทั่วไปไม่นานหลังจากขึ้นดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี

ในช่วงสามวันของสัปดาห์ที่ผ่านมา ทรัมป์ประกาศจัดเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากแคนาดาและเม็กซิโกมากถึง 25% จากนั้นประกาศเลื่อนการเก็บภาษีสินค้ารวมถึงรถยนต์ที่สอดคล้องกับข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือออกไปหนึ่งเดือน ตามมาด้วยการขู่ที่จะจัดเก็บภาษีนำเข้าไม้แปรรูปและผลิตภัณฑ์นมจากแคนาดาเพิ่มขึ้นอีกเป็นสองเท่า

และด้านโฮเวิร์ด ลุตนิก รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์สหรัฐส่งสัญญาณเมื่อวันอาทิตย์ที่ 9 มีนาคมว่า เขาคาดว่าจะจัดเก็บภาษีนำเข้าเหล็กและอะลูมิเนียมทุกประเทศ มากถึง 25% ในวันที่ 12 มีนาคมนี้ ตามที่ทรัมป์ขู่ไว้ก่อนหน้านี้

แคนาดาพึ่งพาการค้ากับสหรัฐอย่างมาก และทรัมป์ได้แสดงความต้องการที่จะใช้พลังทางเศรษฐกิจเพื่อทำให้แคนาดาเป็นรัฐที่ 51 การกระทำของทรัมป์ได้จุดชนวนให้เกิดความไม่พอใจให้แคนาดา โดยผู้บริโภคคว่ำบาตรสินค้าสหรัฐ และเรียกร้องให้รัฐบาลแคนาดาหันมาให้ความสนใจกับการหาคู่ค้ารายใหม่ ซึ่งทรูโดกล่าวว่าควรพิจารณาอย่างจริงจังถึงภัยคุกคามของทรัมป์ต่ออำนาจอธิปไตยของแคนาดา

ADVERTISMENT

คาร์นีย์กล่าวสุนทรพจน์ในโอกาสคว้าชัยชนะว่า อเมริกาไม่ใช่แคนาดา และแคนาดาจะไม่มีวันเป็นส่วนหนึ่งของอเมริกาไม่ว่าในรูปแบบใดทั้งสิ้น คาร์นีย์ยังให้คำมั่นว่าจะคงการขึ้นภาษีสินค้าสหรัฐไว้เพื่อตอบโต้จนกว่าชาวอเมริกันจะแสดงความเคารพต่อแคนาดา ตลอดจนให้คำมั่นสัญญาที่น่าเชื่อถือและไว้วางใจได้ต่อการค้าที่เสรีและเป็นธรรม รายได้ทั้งหมดจากการเก็บภาษีจะนำไปใช้เพื่อปกป้องคนงาน

คาร์นีย์ยังสัญญาที่สร้างการลงทุนครั้งสำคัญเพื่อเปลี่ยนเศรษฐกิจของแคนาดาให้แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำ 7 ประเทศ (จี 7) รวมถึงการสร้างเส้นทางการค้าใหม่กับพันธมิตรที่เชื่อถือได้ และเปลี่ยนประเทศให้กลายเป็นมหาอำนาจด้านพลังงาน

ADVERTISMENT

บทบาทผู้จัดการวิกฤต ตลอดการแข่งขันชิงตำแหน่งหัวหน้าพรรคเสรีนิยม คาร์นีย์แสดงให้เห็นว่าตัวเองเป็นผู้จัดการวิกฤตที่มีประสบการณ์ ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้ว่าธนาคารกลางในช่วงเวลาสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นในแคนาดาในช่วงวิกฤตการเงินโลก และในสหราชอาณาจักรในช่วงที่สหราชอาณาจักรออกจากสหภาพยุโรป (อียู) ที่เต็มไปด้วยความวุ่นวาย แต่เขายังไม่ได้รับการทดสอบในฐานะนักการเมืองมากนัก และปัจจุบันไม่ได้ดำรงตำแหน่งในรัฐสภา