
รัสเซียเผยยูเครนโจมตีกรุงมอสโกด้วยโดรนครั้งใหญ่ที่สุด ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ เกิดขึ้นก่อนการประชุมไม่กี่ชั่วโมง ซึ่งฝ่ายสหรัฐจะประเมินท่าทีของยูเครนว่าเต็มใจเจรจาสันติภาพหรือไม่ ในการหารือกันที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย
รอยเตอร์ (Reuters) รายงานความคืบหน้าการโจมตีพื้นที่มอสโกด้วยโดรนครั้งใหญ่ที่สุด มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 2 ราย และได้รับบาดเจ็บอีก 18 ราย เมื่อคืนของวันที่ 10 มีนาคม ซึ่งถือเป็นการโจมตีด้วยโดรนครั้งใหญ่ที่สุดจากฝ่ายยูเครนในสงครามที่ย่างสู่ปีที่ 4

กระทรวงกลาโหมของรัสเซียระบุว่า โดยรวมแล้วเมื่อคืนนี้ รัสเซียสามารถสกัดหรือทำลายโดรนยูเครน 337 ลำที่กรุงมอสโก และอีก 9 ภูมิภาคของรัสเซีย รวมถึงเคิร์สก์ด้วย
ผลจากการโจมตีรวมถึงเครือข่ายรถไฟในเขตหนึ่งถูกระงับ และมีการจำกัดเที่ยวบินที่สนามบินในมอสโกหลังจากการโจมตี

การโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นเพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนการประชุมสำคัญระหว่างตัวแทนจากสหรัฐและยูเครนในซาอุดีอาระเบีย ซึ่งมุ่งเน้นไปที่การยุติสงครามระหว่างรัสเซียและยูเครน และการเจรจาระหว่างผู้แทนยูเครนและมาร์โก รูบิโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐที่เมืองเจดดาห์ จะเป็นการประชุมอย่างเป็นทางการครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนที่แล้ว ซึ่งในครั้งนั้นประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน และประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เผชิญหน้ากันถกเถียงกันอย่างดุเดือดที่ทำเนียบขาว
รูบิโอเสนอว่า ยูเครนอาจต้องยอมสละดินแดนให้รัสเซียตามข้อตกลงยุติสงคราม โดยทั้งสองฝ่ายต้องเข้าใจว่าไม่มีทางออกทางการทหารสำหรับสถานการณ์นี้


นายเซอร์เกย์ โซเบียนิน นายกเทศมนตรีกรุงมอสโก กล่าวว่า การโจมตีเมื่อวันอังคารที่ 10 มีนาคม เวลาท้องถิ่น เป็นการโจมตีด้วยโดรนของยูเครนครั้งใหญ่ที่สุดต่อกรุงมอสโก ซึ่งร่วมกับภูมิภาคโดยรอบมีประชากรอย่างน้อย 21 ล้านคน และเป็นเขตมหานครที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป
ยูเครนยังไม่ได้แสดงความเห็นต่อสาธารณะในการโจมตีครั้งนี้
