สหรัฐอเมริกาประกาศถอนตัวจากคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) โดยนางนิกกี เฮลีย์ เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ ประกาศระหว่างการแถลงข่าวร่วมกับนายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐว่า ยูเอ็นเอสซีเป็นองค์กรที่ไม่สามารถปกป้องสิทธิมนุษยชนได้ เพราะเป็นองค์กรที่หน้าไหว้หลังหลอก ทำงานเพียงเพื่อรับใช้ความต้องการของตนเอง ทั้งยังดูหมิ่นสิทธิมนุษยชน
เมื่อปีที่ผ่านมาเฮลีย์เคยกล่าวหายูเอ็นเอสซีว่าเป็นโรคอคติต่อต้านอิสราเอลชนิดเรื้อรัง พร้อมกับประกาศว่าสหรัฐกำลังทบทวนการเป็นสมาชิกของยูเอ็นเอสซี ก่อนที่จะมีการประกาศถอนตัวในที่สุด
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเลต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
นายแอนโตนิโอ กูแตเรส เลขาธิการสหประชาชาติออกแถลงการณ์ระบุว่า เขายังอยากให้สหรัฐอยู่ในคณะมนตรีชุดดังกล่าวต่อไป
ขณะที่เจ้าชายซาอิด ราอัด ฮุสเซน ข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งชาติประชาชาติ กล่าวว่า การถอนตัวของสหรัฐออกจากยูเอ็นเอสซีเป็นเรื่องน่าผิดหวัง แต่ไม่ใช่ข่าวที่ทำให้ตกใจแต่อย่างใด ทั้งที่เมื่อพิจารณาถึงสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในโลกในปัจจุบัน สหรัฐควรต้องเข้ามามีปฏิสัมพันธ์มากขึ้น ไม่ใช่ถอยหลังออกไป
ด้านฮิวเมนไรท์วอชต์ องค์กรสิทธิมนุษยชนที่ตั้งอยู่ในนครนิวยอร์ก ออกมาประณามการตัดสินใจของสหรัฐ พร้อมทั้งระบุว่านโยบายด้านสิทธิมนุษยชนของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นการมองทุกสิ่งเพียงมิติเดียวเท่านั้น
นักเคลื่อนไหวมองว่า การถอนตัวของสหรัฐในครั้งนี้จะส่งผลกระทบกับความพยายามในการตรวจสอบและจัดการกับปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนทั่วโลก
การประกาศถอนตัวออกจากยูเอ็นเอสซีของสหรัฐยังมีขึ้นขณะที่รัฐบาลภายใต้การนำของทรัมป์ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก เกี่ยวกับนโยบายการแยกเด็กออกจากครอบครัวที่บริเวณชายแดนระหว่างสหรัฐ-เม็กซิโกด้วย
ที่มา : มติชนออนไลน์