สหรัฐขาดดุลงบประมาณ 1.147 ล้านล้านดอลลาร์ ทำลายสถิติช่วงโควิด-19

อาคารรัฐสภาสหรัฐ ภาพโดย REUTERS/Nathan Howard
อาคารรัฐสภาสหรัฐ ภาพโดย REUTERS/Nathan Howard

สหรัฐขาดดุลงบประมาณ 1.147 ล้านล้านดอลลาร์ ในช่วง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ ทำลายสถิติช่วงโควิด-19 ขณะที่มาตรการภาษี และการปรับลดค่าใช้จ่ายภาครัฐของโดนัลด์ ทรัมป์ กลับไม่ส่งผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญ

รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า กระทรวงการคลังสหรัฐเผยในวันที่ 12 มีนาคม 2025 ว่าสหรัฐขาดดุลงบประมาณ 1.147 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 38.75 ล้านล้านบาท) ตลอดห้าเดือนแรกของปีงบประมาณ 2025 มากสุดเป็นประวัติการณ์ เพียงแค่เดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งเป็นเดือนแรกในวาระของโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ขาดดุลแล้วกว่า 307,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 10.37 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบเป็นรายปี (YOY)

เมื่อเทียบกับสถิติเดิมของช่วงเวลาเดียวกันในยุคโควิด-19 ซึ่งเป็นช่วงที่รัฐบาลต้องเร่งใช้จ่ายเพื่อบรรเทาค่าครองชีพ พร้อมขาดรายได้ภาษีไปด้วย พบว่าตลอดเดือนตุลาคม 2019 ถึงกุมภาพันธ์ 2020 สหรัฐขาดดุลงบประมาณ 1.047 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 35.38 ล้านล้านบาท)

กระทรวงการคลังเผยว่า เดือนกุมภาพันธ์ขาดดุลเพิ่มขึ้น 1,100 ล้านดอลลาร์ เมื่อเทียบกับเดือนเดียวกันปีก่อน เนื่องจากดอกเบี้ยหนี้สาธารณะ รายจ่ายด้านความมั่นคงทางสังคม เช่น เครดิตภาษีเลี้ยงดูบุตร และบริการทางสาธารณสุขมีต้นทุนแพงขึ้น

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขแสดงให้เห็นว่ามีผลกระทบเพียงเล็กน้อยเท่านั้นจากกำแพงภาษี และความพยายามในการลดการใช้จ่ายภาครัฐของโดนัลด์ ทรัมป์

รายรับการคลังในเดือนกุมภาพันธ์ทั้งหมดอยู่ที่ 296,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 10 ล้านล้านบาท) มากสุดเป็นประวัติการณ์สำหรับเดือนกุมภาพันธ์ เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบเป็นรายปี (YOY) หรือ 25,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 844,000 ล้านบาท) แต่ค่าใช้จ่ายก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน อยู่ที่ 603,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 20.37 ล้านล้านบาท) เพิ่มขึ้น 6% หรือ 36,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.21 ล้านล้านบาท)

ADVERTISMENT

มายา แมคกิเนียส (Maya MacGuineas) ประธานคณะกรรมการเพื่อความรับผิดชอบด้านงบประมาณของรัฐบาลกลางกล่าวว่า เห็นได้ชัดเจนว่า แม้จะผ่านปีงบประมาณมาครึ่งทางแล้ว แต่ยังไม่มีความคืบหน้าใด ๆ ในการควบคุมหนี้ที่พุ่งสูงขึ้นทุกวันได้เลย

แม้ทรัมป์จะประกาศขึ้นภาษีสินค้านำเข้าจากจีน 10% ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ แต่ผลกระทบอย่างเป็นรูปธรรมยังไม่แสดงออกมา ซึ่งอาจต้องรอตัวเลขในเดือนมีนาคม ซึ่งทรัมป์เรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเป็น 20% ขณะที่ความพยายามลดรายจ่ายภาครัฐ ผ่านการยุบหน่วยงานต่าง ๆ โดยกระทรวงประสิทธิภาพรัฐบาล (DOGE) ของอีลอน มัสก์ (Elon Musk) ก็ไม่ได้ลดการใช้จ่ายอย่างมีนัยสำคัญในการรายงาน

ADVERTISMENT