VOA พนักงาน 1,300 คนถูกสั่งพักงาน หลังทรัมป์สั่งลดพนักงานองค์กรสื่อ

ประธานาธิบดีทรัมป์ลงนามคำสั่งพักงานเจ้าหน้าที่องค์กรสื่อ ทั้ง VOA และองค์กรอื่นที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐ ด้าน VOA ถูกสั่งพักงานเกือบทั้งหมดราว 1,300 คน

มติชน รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐอเมริกา ได้ลงนามในคำสั่งให้มีการลดจำนวนพนักงานของ Voice of America (VOA) และองค์กรสื่ออื่น ๆ ที่ได้รับเงินสนับสนุนจากรัฐบาลสหรัฐ ซึ่งรวมถึง U.S. Agency for Global Media ซึ่งเป็นสำนักงานของ Voice of America, Radio Free Europe and Asia และ Radio Marti ซึ่งส่งข่าวภาษาสเปนไปยังคิวบา

ทางการได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ขององค์กรสื่อเหล่านี้ในวันที่ 15 มีนาคม โดยผู้อำนวยการของ VOA กล่าวว่า พนักงานทั้งหมดถูกพักงาน หลังจากที่รัฐสภาได้ผ่านร่างกฎหมายจัดสรรงบประมาณฉบับล่าสุด ทรัมป์ได้สั่งให้มีการลดการปฏิบัติหน้าที่ของหน่วยงานต่าง ๆ ลงเหลือเพียงขั้นต่ำตามที่กฎหมายกำหนด

ไมเคิล อับรามอวิซ ผู้อำนวยการ VOA ระบุในแถลงการณ์ว่า นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 83 ปีที่ VOA ซึ่งเป็นองค์กรอันทรงเกียรติกำลังถูกทำให้เงียบเสียง พนักงานเกือบทั้งหมดจากพนักงานของเรา 1,300 คนถูกสั่งพักงาน

“VOA ทำงานเพื่อส่งเสริมเสรีภาพและประชาธิปไตยทั่วโลก โดยการบอกเล่าเรื่องราวของอเมริกา ให้ข่าวสารและข้อมูลที่เป็นกลางและสมดุล โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่อาศัยอยู่ภายใต้การปกครองแบบเผด็จการ” อับรามอวิชกล่าว

ด้านองค์กรผู้สื่อข่าวไร้พรมแดน หรือ Reporters Without Borders ออกมาประณามการตัดสินใจดังกล่าว และมองว่ามันเป็นการละทิ้งบทบาทตามประวัติศาสตร์ของสหรัฐในการปกป้องเสรีภาพของข้อมูล พร้อมกับเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฟื้นคืนการทำงานของ VOA และขอให้สภาคองเกรสและชุมชนระหว่างประเทศดำเนินการต่อต้านการเคลื่อนไหวที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนดังกล่าวนี้

Agency for Global Media ยังได้ส่งประกาศการยุติการให้เงินสนับสนุนแก่ Radio Free Asia และโปรแกรมอื่น ๆ ที่ดำเนินการโดยหน่วยงานนี้ VOA ถ่ายทอดข่าวสารในสหรัฐไปยังประเทศอื่น ๆ โดยมักแปลเป็นภาษาท้องถิ่นผ่าน Radio Free Asia, Europe และ Marti เพื่อส่งข่าวไปยังประเทศที่มีระบอบการปกครองแบบเผด็จการในภูมิภาคเหล่านั้น อาทิ จีน เกาหลีเหนือ และรัสเซีย

สตีเฟน คาปัส ประธานและซีอีโอของเครือข่ายดังกล่าวระบุว่า การยกเลิกข้อตกลงเงินสนับสนุนของ Radio Free Europe และ Radio Liberty จะเป็นของขวัญที่มีมูลค่ายิ่งใหญ่ให้กับศัตรูของอเมริกา

ในภาพรวม เครือข่ายสื่อเหล่านี้เข้าถึงผู้คนประมาณ 427 ล้านคน มีประวัติยาวนานย้อนหลังตั้งแต่สมัยสงครามเย็น และเป็นส่วนหนึ่งของเครือข่ายองค์กรที่ได้รับทุนจากรัฐบาลที่พยายามขยายอิทธิพลของสหรัฐ และต่อสู้กับระบอบเผด็จการ ซึ่งรวมถึงสำนักงานเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศของสหรัฐอเมริกา (USAID) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่โดนทรัมป์โจมตีและได้มีการปรับลดการทำงานรวมถึงให้พนักงานพักงานไปก่อนหน้านี้

การลดทอนการทำงานของหน่วยงานสื่อที่สหรัฐให้การสนับสนุนครั้งนี้ ถือเป็นการโจมตีอย่างรุนแรงต่อสถาบันที่เป็นหลักสำคัญของระเบียบโลกหลังสงครามเย็นที่ได้รับการสนับสนุนมากเป็นเวลานาน

โทมัส เคนท์ อดีตประธานและซีอีโอของ Radio Free Europe/Radio Liberty กล่าวว่า ความตั้งใจของทรัมป์ต่อหน่วยงานเหล่านี้ยังคงไม่ชัดเจน แต่หากไม่มีช่องทางเหล่านี้ การส่งข้อความของสหรัฐออกไปสู่โลกจะยากขึ้นมาก

“หากไม่มีการกระจายข่าวทางสื่อระหว่างประเทศ ภาพลักษณ์ของสหรัฐและการบริหารงานของทรัมป์จะอยู่ในมือของผู้อื่น รวมถึงฝ่ายตรงข้ามของการบริหารงาน ตลอดจนประเทศและประชาชนที่มองสหรัฐเป็นศัตรู” เคนท์ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ปรึกษาระดับนานาชาติด้านจริยธรรมสื่อกล่าว