
ทรัมป์เผยหลายองค์ประกอบในดีลหยุดยิงตกลงกันได้แล้ว ก่อนการหารือทางโทรศัพท์กับปูตินในวันนี้ (18 มีนาคม) และสี จิ้นผิง ผู้นำจีน เตรียมเยือนสหรัฐในอนาคตไม่ไกลจากนี้เกินไปนัก ท่ามกลางความตึงเครียดสงครามการค้า
รอยเตอร์ (Reuters) และบีบีซี (BBC) รายงานว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า หลายองค์ประกอบของข้อตกลงหยุดยิงในสงครามยูเครน สามารถตกลงกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียได้แล้ว ก่อนที่สองผู้นำจะโทรศัพท์หารือระหว่างกัน ในช่วงเช้าวันนี้ (18 มีนาคม) เวลาท้องถิ่น
อย่างไรก็ตาม แม้จะตกลงกันได้หลาย ๆ ข้อ แต่ยังมีอีกมากที่ต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้น
ทรัมป์โพสต์ในโซเชียลมีเดียว่า ในแต่ละสัปดาห์ ทหารทั้งสองฝ่ายเสียชีวิต 2,500 นาย และจะต้องยุติเรื่องนี้ทันที ตนตั้งตารอที่จะได้โทรศัพท์คุยกับประธานาธิบดีปูตินอย่างมาก
ด้านดมิทรี เปสคอป โฆษกทำเนียบประธานาธิบดีรัสเซีย ยืนยันแผนการหารือดังกล่าวระหว่างทรัมป์และปูติน
ในคำปราศรัยประจำในคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครน กล่าวหาว่าปูตินยืดเยื้อสงคราม โดยเขาว่าข้อเสนอนี้สามารถถูกนำมาปฏิบัติได้ตั้งนานแล้ว และเสริมว่าทุก ๆ วันในช่วงสงครามหมายถึงชีวิตมนุษย์
ขณะเดียวกัน ผู้นำสหราชอาณาจักรและฝรั่งเศสเรียกร้องให้ปูตินพิสูจน์ว่าเขาต้องการข้อตกลงสันติภาพกับยูเครน
สำหรับเนื้อหาที่หารือ โฆษกทำเนียบขาวตอบอย่างกว้าง ๆ ว่า รวมถึงดินแดนและโรงไฟฟ้า ซึ่งรอยเตอร์ระบุว่าอาจมีเรื่องโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อยู่ที่ชายแดนรัสเซียและยูเครน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการหารือกับยูเครน โรงไฟฟ้าดังกล่าวน่าจะเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ซาโปริชเชีย ซึ่งเป็นโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ใหญ่ที่สุดในยุโรป ซึ่งถูกกองกำลังรัสเซียยึดครองมาตั้งแต่เดือนมีนาคม 2022 และความกลัวต่ออุบัติเหตุทางนิวเคลียร์ยังคงมีอยู่ เนื่องจากการสู้รบในพื้นที่ดังกล่าว
ซัมมิตวันเกิดทรัมป์-สี
ทรัมป์เผยเมื่อ 17 มีนาคม เวลาท้องถิ่นว่า สี จิ้นผิง ผู้นำจีนจะเดินทางเยือนสหรัฐใน “อนาคตไม่ไกลจากนี้เกินไปนัก” ท่ามกลางความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลกทวีความรุนแรงขึ้น
ตามรายงานของบลูมเบิร์ก (Bloomberg) ระบุว่า ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวขณะเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการบริหารที่ศูนย์ศิลปะการแสดงจอห์น เอฟ. เคนเนดี โดยกล่าวถึงการเยือนของผู้นำจากอินเดีย ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร และไอร์แลนด์เมื่อเร็ว ๆ นี้ ด้วย
ทรัมป์ได้ยกระดับการต่อสู้ทางการค้ากับจีนนับตั้งแต่กลับเข้ารับตำแหน่ง โดยเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนเป็นสองเท่ารวม 20% การเคลื่อนไหวดังกล่าวเป็นการตอบสนองต่อความล้มเหลวของจีนในการปราบปรามการลักลอบขนสารเฟนทานิลที่ผิดกฎหมายและสารเคมีตั้งต้นที่ใช้ในการผลิต
ก่อนหน้านี้ วอลล์สตรีตเจอร์นัลรายงานว่า เจ้าหน้าที่สหรัฐและจีนกำลังหารือถึงความเป็นไปได้ในการประชุมสุดยอดวันเกิดในเดือนมิถุนายน จากการที่ทั้งคู่มีวันเกิดในช่วงกลางเดือนมิถุนายน ทั้งนี้ การเยือนของสี จิ้นผิง จะนับเป็นการพบกันครั้งแรก นับตั้งแต่ทรัมป์ดำรงตำแหน่งสมัยสอง แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดเกี่ยวกับเวลาที่ชัดเจนสำหรับการพบกันครั้งนี้