สหรัฐ ยูเครนเจรจาในซาอุดีฯ หวังบรรลุดีลหยุดยิงในทะเลดำ

เรือตรวจการณ์ของหน่วยยามฝั่งยูเครนแล่นในทะเลดำ ท่ามกลางการโจมตียูเครนของรัสเซีย 7 กุมภาพันธ์ 2024 (ภาพ รอยเตอร์ )

ผู้แทนของสหรัฐและยูเครนหารือในซาอุดีอาระเบียเกี่ยวกับข้อตกลงหยุดยิงที่กว้างขึ้น ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อหยุดยิงในทะเลดำ ด้านทรัมป์เผยว่าสามารถควบคุมความขัดแย้งได้แล้วในระดับหนึ่ง

รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า คณะผู้แทนยูเครนและสหรัฐเริ่มหารือข้อเสนอคุ้มครองโครงสร้างทางพลังงาน รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญอื่น ๆ ในประเทศซาอุดีอาระเบีย ตามที่สองฝ่ายเห็นพ้องหยุดโจมตีโครงสร้างพลังงานชั่วคราว รวมถึงมีเป้าหมายที่จะหยุดยิงในทะเลดำ เมื่อ 23 มีนาคม ตามเวลาท้องถิ่น ตามการผลักดันทางการทูตที่เข้มข้นขึ้นของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ เพื่อยุติสงครามในยูเครนที่ย่างเข้าสู่ปีที่ 4

การหารือดังกล่าวเป็นการหารือที่ต่อเนื่องมาจากการหารือระหว่างสหรัฐและรัสเซีย ซึ่งสตีฟ วิตคอฟฟ์ ผู้แทนพิเศษในกิจการตะวันออกกลางของทรัมป์มองบวกเกี่ยวกับโอกาสการยุติความขัดแย้งที่เลวร้ายที่สุดของยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งการหารือในซาอุดีฯ จะดำเนินต่อเนื่องรวมถึงในวันนี้ ( 24 มีนาคม) ด้วย และฝ่ายสหรัฐจะนำผลการหารือกับฝ่ายยูเครนไปหารือกับรัสเซียในเวลาต่อมาด้วย

ในการให้สัมภาษณ์กับฟ็อกซ์ นิวส์ (Fox News) วิตคอฟฟ์ ระบุว่า ตนรู้สึกได้ว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซียต้องการสันติภาพ การหารือในซาอุดีฯ จะมีความคืบหน้าเกิดขึ้น โดยเฉพาะผลกระทบเมื่อมีการหยุดยิงในทะเลดำต่อเรือของสองประเทศแล้ว และต่อจากเรื่องนี้ โดยธรรมชาติก็จะนำไปสู่การหยุดยิงเต็มรูปแบบนั่นเอง

ทำเนียบขาวกล่าวว่า เป้าหมายของการเจรจาคือการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงทางทะเลในทะเลดำ ซึ่งจะทำให้การเดินเรือสามารถแล่นได้อย่างเสรี

ด้านประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ผู้นำยูเครนระบุว่า ผู้แทนยูเครนกำลังเจรจาในซาอุดีฯ ด้วยท่าทีที่สร้างสรรค์อย่างมาก และเสริมว่าการหารือเกิดประโยชน์อย่างแท้จริง แต่ฝ่ายยูเครนยังต้องการให้ปูตินออกคำสั่งจริง ๆ ให้หยุดการโจมตี

ADVERTISMENT

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ปูตินเห็นด้วยกับข้อเสนอของทรัมป์ที่ให้รัสเซียและยูเครนหยุดโจมตีโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานของแต่ละฝ่ายเป็นเวลา 30 วัน แต่ถือเป็นการหยุดยิงที่จำกัดวงแคบ ซึ่งทั้งสองฝ่ายรายงานว่ายังคงมีการโจมตีอย่างต่อเนื่อง

เจ้าหน้าที่ยูเครนกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า การโจมตีด้วยโดรนขนาดใหญ่ของรัสเซียในกรุงเคียฟ คร่าชีวิตผู้คนไปอย่างน้อย 3 ราย รวมถึงเด็กอายุ 5 ขวบ ทำให้เกิดไฟไหม้ในอพาร์ตเมนต์สูงและสร้างความเสียหายทั่วเมืองหลวง ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่รัสเซียกล่าวเมื่อวันอาทิตย์ว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศทำลายโดรนของยูเครน 59 ลำที่โจมตีภูมิภาคตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ และเสริมว่าการโจมตีดังกล่าวยังคร่าชีวิตคนในเมืองรอสตอฟไป 1 รายด้วย

ADVERTISMENT

ควบคุมได้ระดับหนึ่ง

เมื่อวันเสาร์ที่ 22 มีนาคม ทรัมป์กล่าวว่าสามารถควบคุมการทวีความรุนแรงในสงครามยูเครน-รัสเซียได้ในระดับหนึ่งแล้ว และบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยอ้างแหล่งข่าวที่ทราบแผนดังกล่าวว่า สหรัฐหวังว่าจะบรรลุข้อตกลงหยุดยิงที่กว้างขึ้นนี้ภายในไม่กี่สัปดาห์ โดยตั้งเป้าหมายให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 20 เมษายนนี้

ไมก์ วอลซ์ ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติทำเนียบขาวกล่าวว่า สหรัฐกำลังหารือถึงมาตรการสร้างความเชื่อมั่นหลายประการเพื่อยุติสงคราม ซึ่งรวมถึงอนาคตของเด็กชาวยูเครนที่ถูกส่งตัวไปยังรัสเซียด้วย

เมื่อถูกถามถึงเป้าหมายของการเจรจาดีลหยุดยิงที่กว้างขึ้น นายวอลซ์กล่าวตอบว่า หลังจากตกลงหยุดยิงในทะเลดำได้แล้ว เราจะหารือถึงแนวควบคุมการสู้รบ ซึ่งเป็นแนวหน้าที่แท้จริง ซึ่งจะลงลึกถึงรายละเอียดของกลไกการตรวจสอบ การรักษาสันติภาพ การตรึงแนวป้องกันไว้ที่เดิม และแน่นอนว่าสันติภาพในวงกว้างขึ้นและถาวรก็เช่นกัน