
Ant Group ของแจ็ก หม่า เผย ใช้ชิปจีนพัฒนาเอไอ ช่วยประหยัดต้นทุนได้กว่า 20% และมีประสิทธิภาพเหนือกว่า Llama model ของ Meta อย่างไรก็ตาม ข้อจำกัดเรื่องเสถียรภาพยังเป็นปัญหาในการพัฒนา
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า แอนท์ กรุ๊ป (Ant Group) ใช้ชิปเซมิคอนดักเตอร์ที่ผลิตในจีนมาพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) ซึ่งช่วยลดต้นทุนได้กว่า 20%
แหล่งข่าวผู้ไม่ต้องการเปิดเผยตัวตนกล่าวกับบลูมเบิร์กว่า แอนท์ กรุ๊ป ใช้ชิปที่ผลิตภายในประเทศเพื่อฝึกโมเดลผู้เชี่ยวชาญ (Mixture-of-Expert) หรือ MoE และได้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกับชิป H800 ของเอ็นวิเดีย (Nvidia) อย่างไรก็ตาม แอนท์ กรุ๊ป ยังคงใช้ชิปของเอ็นวิเดียในการพัฒนาเอไอบางส่วน แต่ก็ใช้ชิปจากเอเอ็มดี (AMD) และชิปที่ผลิตในจีนทดแทนด้วยในโมเดลล่าสุด
แอนท์ กรุ๊ป เผยแพร่เอกสารวิจัยในเดือนนี้ว่า โมเดลของแอนท์ กรุ๊ป มีศักยภาพเหนือกว่าโมเดลของเมตาแพลตฟอร์ม (Meta Platform) หลายเท่าในบางดัชนีเปรียบเทียบ
โมเดลผู้เชี่ยวชาญ MoE ได้รับความนิยมอย่างมากในการพัฒนาเอไอ ทั้งกูเกิล (Google) และสตาร์ตอัพ ดีปซีก (DeepSeek) ต่างก็ใช้โมเดลนี้ อย่างไรก็ตาม การฝึกโมเดลรูปแบบดังกล่าวจำเป็นต้องใช้ชิปประสิทธิภาพสูงจากเอ็นวิเดีย ซึ่งบริษัทขนาดเล็กไม่อาจเข้าถึงได้ ทั้งนี้ แอนท์ กรุ๊ป พยายามหาวิธีก้าวข้ามข้อจำกัดดังกล่าวและปรับปรุงโมเดลให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาชิปคุณภาพสูง
โรเบิร์ต ลี (Robert Lea) นักวิเคราะห์อาวุโสจากบลูมเบิร์ก อินเทลลิเจนซ์ (Bloomberg Intelligence) มองว่า เอกสารที่แอนท์ กรุ๊ป ปล่อยออกมา แสดงให้เห็นว่าจีนสามารถพึ่งพาตนเองในการพัฒนาเทคโนโลยีเอไอที่ล้ำหน้าได้แล้ว แม้จะมีข้อจำกัดด้านการส่งออกชิปเอ็นวิเดียก็ตาม
แอนท์ กรุ๊ป ระบุว่า ต้องใช้ต้นทุนประมาณ 6.35 ล้านหยวน (ราว 29.69 ล้านบาท) เพื่อใช้ฝึกโมเดล 1 ล้านล้านโทเค็นด้วยฮาร์ดแวร์ปะสิทธิภาพสูง แต่ด้วยการปรับแนวทางใช้ฮาร์ดแวร์ที่มีศักยภาพต่ำกว่าจะช่วยลดต้นทุนลงเหลือ 5.1 ล้านหยวน (ราว 23.84 ล้านบาท)
แอนท์ กรุ๊ป วางแผนยกระดับเอไอของตัวเองเข้ากับอุตสาหกรรม เอไอ โซลูชั่น ในภาคบริการสาธารณสุข และการเงิน แอนท์ กรุ๊ป ซื้อแพลตฟอร์มออนไลน์ ห่าวดีเอฟดอตคอม (Haodf.com) ในปีนี้เพื่อบริการเอไอด้านสุขภาพ และมีแอป ‘จื๋อเสี่ยวเป้า’ (Zhixiaobao) สำหรับใช้เอไอเป็นผู้ช่วยส่วนตัวในชีวิตประจำวัน และยังมีแอป ‘หม่าเสี่ยวไช่’ สำหรับใช้เอไอเป็นผู้ช่วยวางแผนการเงิน
ตามรายงานของเอ็มไออี เทคโนโลยี (MIT Technology) แอนท์ กรุ๊ป มีโมเดลเอไอของตัวเองได้แก่ หลิง-ไลต์ (Ling-Lite) ซึ่งมีพารามิเตอร์ 16,800 ล้านตัว และหลิง-พลัส (Ling-Plus) ซึ่งมีพานามิเตอร์ 290,000 ล้านตัว ถือว่าใหญ่มากเมื่อเทียบกับ ChatGPT-4.5 ที่ 1.8 ล้านล้านตัว ขณะที่ดีปซีกมี 671,000 ล้านตัว
แอนท์ กรุ๊ป ระบุในเอกสารว่า หลิง-ไลต์ มีความเข้าใจภาษาอังกฤษดีกว่า Llama Model ของ Meta ในบางดัชนีชี้วัด ขณะที่ทั้งหลิง-ไลต์ และหลิง-พลัส ล้วนมีความเข้าใจภาษีจีนดีกว่าโมเดลที่มีศักยภาพเทียบเท่าดีปซีก
อย่างไรก็ตาม แอนท์ กรุ๊ป ยังมีข้อจำกัดเรื่องเสถียรภาพของโมเดลเอไอ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงฮาร์ดแวร์เพียงเล็กน้อยอาจทำให้เกิดปัญหาได้