“สตาร์บัคส์” จ่อปิด 150 สาขาในสหรัฐ ด้านตลาดในจีนยังดิ่ง หลังหุ้นตก 9 เปอร์เซ็นต์

สตาร์บัคส์ รายงานการชะลอตัวของการเติบโตเศรษฐกิจในจีน โดยอ้างถึงการยกเลิกให้บริการจัดส่งเเบบเดลิเวอรี่ที่ไม่ได้รับคำอนุมัติ ทำให้มียอดค้างสั่งซื้อจำนวนมาก

เครือข่ายร้านกาแฟในสหรัฐเปิดเผยในวันพฤหัสบดี ว่า หลังจากมีการประกาศลดหุ้นสตาร์บัคส์ลง 9 เปอร์เซ็นต์ ยอดขายจะลดน้อยลงในตลาดของจีน ในเดือนเมษายน-มิถุยายน ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่อันดับ 2  เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้าที่ขยายตัวถึง 7 เปอร์เซ็นต์

จีนนับเป็นตลาดที่ดึงดูดความสนใจของสตาร์บัคส์ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเมื่อเดือนที่ผ่านมา บริษัทตั้งเป้าเพิ่มรายได้ให้กับจีนถึง 3 เท่า เเละจะมีร้านกาเเฟในจีนเพิ่มขึ้นถึง 6,000 สาขาในปี 2022

สตาร์บัคส์ยังกล่าวเมื่อวันอังคารว่ามีแผนที่จะปิดร้านกาแฟ 150 สาขาในสหรัฐเเละเปิดสาขาใหม่ให้น้อยลงในช่วงต้นปี เพื่อตอบสนองต่อการเเข่งขันของกลุ่มร้านสะดวกซื้อ เเละร้านอาหารใหม่ๆ

โดยวันพุธที่ผ่านมา หุ้นของสตาร์บัคส์ ลดลงกว่า 9 เปอร์เซ็นต์ ทำให้นักวิเคราะห์จากวอลล์สตรีท ตั้งคำถามถึงความยั่งยืนของสตาร์บัคส์ในจีน เเละการเติบโตในตลาดใหญ่รองจากจีนอีกด้วย

นักวิเคราะห์หลายรายปรับลดการจัดอันดับของบริษัทลง และลดเป้าหมาย 12 เดือนของสตาร์บัคส์ หลังจากยอดขายทั่วโลกในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ ต่ำกว่าที่วอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ที่ 3 เปอร์เซ็นต์

ทั้งนี้ สตาร์บัคส์ยังคาดการณ์ว่ายอดขายสาขาเดิมในจีนจะไม่เติบโตในช่วง 3 เดือนสิ้นสุดเดือนมิถุนายน