สตาร์บัคส์ รายงานการชะลอตัวของการเติบโตเศรษฐกิจในจีน โดยอ้างถึงการยกเลิกให้บริการจัดส่งเเบบเดลิเวอรี่ที่ไม่ได้รับคำอนุมัติ ทำให้มียอดค้างสั่งซื้อจำนวนมาก
เครือข่ายร้านกาแฟในสหรัฐเปิดเผยในวันพฤหัสบดี ว่า หลังจากมีการประกาศลดหุ้นสตาร์บัคส์ลง 9 เปอร์เซ็นต์ ยอดขายจะลดน้อยลงในตลาดของจีน ในเดือนเมษายน-มิถุยายน ซึ่งถือเป็นตลาดใหญ่อันดับ 2 เทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้าที่ขยายตัวถึง 7 เปอร์เซ็นต์
- ลูกแม่ค้าขายผัก-พ่อขับแท็กซี่ สู่เก้าอี้ “ปลัดพลังงาน” บทพิสูจน์ชีวิต “ดร.ประเสริฐ สินสุขประเสริฐ”
- เงื่อนไขปุ๋ยลดราคาเฟส 2 สูตรไหน-พืชชนิดใดบ้าง
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
จีนนับเป็นตลาดที่ดึงดูดความสนใจของสตาร์บัคส์ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา โดยเมื่อเดือนที่ผ่านมา บริษัทตั้งเป้าเพิ่มรายได้ให้กับจีนถึง 3 เท่า เเละจะมีร้านกาเเฟในจีนเพิ่มขึ้นถึง 6,000 สาขาในปี 2022
สตาร์บัคส์ยังกล่าวเมื่อวันอังคารว่ามีแผนที่จะปิดร้านกาแฟ 150 สาขาในสหรัฐเเละเปิดสาขาใหม่ให้น้อยลงในช่วงต้นปี เพื่อตอบสนองต่อการเเข่งขันของกลุ่มร้านสะดวกซื้อ เเละร้านอาหารใหม่ๆ
โดยวันพุธที่ผ่านมา หุ้นของสตาร์บัคส์ ลดลงกว่า 9 เปอร์เซ็นต์ ทำให้นักวิเคราะห์จากวอลล์สตรีท ตั้งคำถามถึงความยั่งยืนของสตาร์บัคส์ในจีน เเละการเติบโตในตลาดใหญ่รองจากจีนอีกด้วย
นักวิเคราะห์หลายรายปรับลดการจัดอันดับของบริษัทลง และลดเป้าหมาย 12 เดือนของสตาร์บัคส์ หลังจากยอดขายทั่วโลกในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นเพียง 1 เปอร์เซ็นต์ ต่ำกว่าที่วอลล์สตรีทคาดการณ์ไว้ที่ 3 เปอร์เซ็นต์
ทั้งนี้ สตาร์บัคส์ยังคาดการณ์ว่ายอดขายสาขาเดิมในจีนจะไม่เติบโตในช่วง 3 เดือนสิ้นสุดเดือนมิถุนายน