
CBO เตือนอีกราย สหรัฐเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้กว่า 36.6 ล้านล้านดอลลาร์ หากไม่รีบขยายเพดานหนี้ก่อน 30 มิถุนายนนี้
รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า สำนักงบประมาณแห่งสภาคองเกรส (CBO) ประกาศเตือนในวันที่ 26 มีนาคม 2025 ว่า รัฐบาลสหรัฐอาจเสี่ยงผิดนัดชำระหนี้กว่า 36.6 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 1,240.83 ล้านล้านบาท) อย่างเร็วสุดคือในเดือนสิงหาคม เว้นแต่สภาคองเกรสจะขยายเพดานหนี้
สำนักงบประมาณแห่งสภาคองเกรสคาดการณ์ว่า กระทรวงการคลังสหรัฐจะไม่สามารถชำระหนี้ของตัวเองได้อีกต่อไป ในวันที่เรียกว่า ‘X-date’ หลังก่อนหน้านี้ศูนย์นโยบายพรรคการเมือง (BPC) คาดการณ์ว่าสหรัฐเสี่ยงจะผิดนัดชำระหนี้ในช่วงกลางเดือนกรกฎาคมถึงต้นเดือนตุลาคม
สำนักงบประมาณแห่งสภาคองเกรสคาดการณ์การผิดนัดชำระหนี้ไว้ในช่วงเดือนสิงหาคมถึงเดือนกันยายน ทั้งนี้ หากในระหว่างนั้นความต้องการกู้ยืมของสหรัฐเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ กระทรวงการคลังอาจไม่มีทรัพยากรเหลือพอสำหรับการชำระหนี้ในปลายเดือนพฤษภาคม หรือในเดือนมิถุนายนแทน
การระบุวัน ‘X-date’ ที่แน่นอนนั้นเป็นไปได้ยาก เพราะตัวเลขของรายรับและรายจ่ายของภาครัฐเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
เช่น ตัวเลขรายได้ระยะสั้นของกระทรวงการคลังจะยังไม่ชัดเจนจนกว่ารัฐบาลจะคำนวณรายรับในช่วงวันที่ 15 เมษายน ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการยื่นภาษี นอกจากนี้ ยังมีวันครบกำหนดชำระภาษีในช่วงกลางเดือนมิถุนายน และมาตรการพิเศษเพิ่มเติมที่ขยายเส้นตายไปอีกถึง 30 มิถุนายน
จะเกิดผลกระทบเสียหายอย่างมาก หากโดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) และสภาคองเกรสไม่สามารถตกลงร่วมกันในการขยายเพดานหนี้
สำนักงบประมาณแห่งสภาคองเกรสเตือนว่า หากไม่มีการระงับหรือขยายเพดานหนี้ ก่อนวันที่ 30 มิถุนายน รัฐบาลจะไม่สามารถชำระหนี้ใด ๆ ได้เลย จนอาจชำระเงินล่าช้าในบางกิจกรรม หรือผิดนัดชำระหนี้เกิดขึ้น ซึ่งจะเป็นทั้งสองอย่างพร้อมกันเลยก็ได้
พรรครีพับลิกันซึ่งครองทั้งสภาบนและสภาล่าง ยังไม่ได้มีการกล่าวถึงช่วงเวลาที่จะมีการขยายเพดานหนี้
รัฐสภาสหรัฐมักถกเถียงประเด็นเกี่ยวกับการขยายเพดานหนี้จนนาทีสุดท้ายอยู่เสมอ และมักนำไปสู่ความผันผวนในตลาดการเงินอยู่บ่อย ๆ ซึ่งทำให้สถาบันจัดอันดับหลายแห่งปรับลดเครดิตความน่าเชื่อถือของรัฐบาลสหรัฐลง