Xiaomi หุ้นร่วงหนัก หลังรถ EV พร้อมระบบช่วยขับขี่ เกิดอุบัติเหตุ เสียชีวิต 3 ราย

โลโก้ Xiaomi บนล้อรถยนต์อีวีรุ่น SU7 ภาพโดย REUTERS/Tingshu Wang
โลโก้ Xiaomi บนล้อรถยนต์อีวีรุ่น SU7 ภาพโดย REUTERS/Tingshu Wang

Xiaomi หุ้นร่วงหนัก หลังรถ EV รุ่น SU7 ของบริษัทเกี่ยวพันอุบัติเหตุบนทางหลวงของจีน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย

บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า เสียวหมี่ (Xiaomi) ยืนยันว่ารถยนต์คันที่ประสบอุบัติเหตุบนทางด่วนในเมืองจีนเป็นรถยนต์อีวี รุ่น SU7 ของทางบริษัท เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และนำไปสู่การสืบสวนซอฟต์แวร์ขับขี่อัจฉริยะที่มีการติดตั้งอยู่บนรถยนต์ทั่วไปในปัจจุบัน 

หุ้นของเสียวหมี่ปิดตลาดร่วงลง 5.5% ในวันที่ 1 เมษายน 2025 และเปิดตลาดร่วงต่อ 2.80% ในวันที่ 2 เมษายน เวลา 13.45 ซึ่ง ร่วงลงกว่า 26.27% แล้วนับตั้งแต่เสียวหมี่ระดมทุนกว่า 5,500 ล้านดอลลาร์ (ราว 188,000 ล้านบาท) เพื่อขยายกิจการรถอีวีเมื่อสัปดาห์ก่อน 

เหลย จุน (Lei Jun) ซีอีโอเสียวหมี่ โพสต์แสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตบนเว่ยป๋อ (Weibo) พร้อมรับปากจะช่วยตำรวจในการสอบสวน โดยระบุว่า เสียวหมี่ตั้งทีมพิเศษทันที หลังเกิดอุบัติเหตุเมื่อวันที่ 29 มีนาคม 2025 เพียงหนึ่งวัน และส่งมอบข้อมูลรถอีวีให้แก่ตำรวจแล้วเมื่อวันที่ 31 มีนาคม 

เซิน เหมิง (Shen Meng) ผู้อำนวยการชานสัน แอนด์ โค. (Chanson & Co.) วาณิชธนกิจจีน กล่าวว่า นักลงทุนอาจกังวลเกี่ยวกับความสามารถในการแข่งขัน และแนวโน้มการเติบโต จนส่งผลต่อราคาหุ้น

ตามรายงานเบื้องต้นของเสียวหมี่ ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง (ADAS) ถูกเปิดใช้งานไม่ถึง 20 นาทีก่อนเกิดอุบัติเหตุ และมีการแจ้งเตือนสองครั้ง ในครั้งแรกเตือนเพราะคนขับไม่จับพวงมาลัย และอีกครั้งหนึ่งเตือนว่ามีสิ่งกีดขวางถนน จากนั้นคนขับจึงกลับมาคุมพวงมาลัย และตัวรถชนรั้วคอนกรีตขึ้นในที่สุด ซึ่งสื่อท้องถิ่นรายงานว่า เกิดเพลิงลุกไหม้ทั่วรถยนต์ เหลือเพียงแต่โครงรถที่เป็นเหล็ก

ADVERTISMENT

ตามการโฆษณาของเสียวหมี่ ระบบช่วยเหลือการขับขี่สามารถเปลี่ยนเลน เพิ่มหรือรถความเร็ว และเข้าโค้งหรือเบรกตัวรถได้ โดยแทบไม่ต้องอาศัยการควบคุมของมนุษย์ อย่างไรก็ตาม เสียวหมี่เตือนว่า ระบบขับขี่อัจฉริยะ ไม่เท่ากับ ระบบขับขี่อัตโนมัติ ซึ่งการปล่อยมือจากพวงมาลัยรถยนต์ขณะขับขี่เป็นสิ่งผิดกฎหมายในประเทศจีน

เสียวหมี่เพิ่งประกาศเพิ่มเป้าหมายยอดขายรถยนต์เป็น 350,000 คันเมื่อเดือนก่อน  ซึ่งอุบัติเหตุดังกล่าวอาจเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญต่อความมุ่งมั่นของเสียวหมี่

ADVERTISMENT