
จีนประกาศพร้อมตอบโต้ หลังถูกสหรัฐเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าเพิ่มขึ้นอีก 34% ล่าสุดมีการรายงานว่าทางการจีนสั่งชะลอการลงทะเบียนของบริษัทจีนที่ต้องการลงทุนในสหรัฐ
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า จีนพร้อมตอบโต้สหรัฐ หลังถูกเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าเพิ่มอีก 34% ซึ่งจะมีผลในวันที่ 9 เมษายนนี้ โดย หวัง เหวินเทา (Wang Wentao) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จีนประณามการขึ้นกำแพงภาษีครั้งล่าสุด และเรียกร้องให้สหรัฐยกเลิกมาตรการภาษี และแก้ปัญหาด้วยการเจรจาแทน
บรรดานักเศรษฐศาสตร์ระบุว่า อัตราภาษีครั้งล่าสุดเป็นเพียงอัตราเฉลี่ยเท่านั้น ซึ่งหากนับรวมอัตราที่ถูกเรียกเก็บมาตั้งแต่สมัยทรัมป์ 1.0 เรื่อยมาจนยุครัฐบาลไบเดน อาจสูงถึง 65% ในสินค้าบางรายการ
เจนนิเฟอร์ เวลช์ (Jennifer Welch) หัวหน้านักวิเคราะห์ภูมิเศรษฐศาสตร์ของบลูมเบิร์กกล่าวว่า หากมาตรการภาษี 20% ในครั้งก่อนถือเป็นการเหวี่ยงค้อนทุบแล้ว มาตรการในครั้งนี้ถือเป็นการใช้ปืนบาซูก้ายิงถล่มเศรษฐกิจจีน
แมกควารี กรุ๊ป (Macquarie Group) ประมาณการไว้เมื่อปลายปี 2024 ว่าหากสหรัฐขึ้นภาษีในอัตรา 60% อาจทำให้เศรษฐกิจจีนเติบโตลดลงไป 2 จุดเปอร์เซ็นต์ ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์จากบลูมเบิร์กวิเคราะห์ว่าด้วยอัตราภาษีที่สูงในระดับนี้ อาจทำให้การค้าระหว่างจีนและสหรัฐลดลงจนไม่มีการค้าขายระหว่างกันได้เลย
ไม่เพียงเท่านั้น สหรัฐยังจะยกเลิกมาตรการยกเว้นภาษีสินค้านำเข้าที่มีมูลค่าต่ำกว่า 800 ดอลลาร์ (28,000 บาท) จากจีนและฮ่องกง หรือที่เรียกว่า ‘De minimis’ อีกด้วย มีผลในวันที่ 2 พฤษภาคม เนื่องจากมาตรการยกเว้นดังกล่าว ช่วยให้แพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ของจีนอย่าง ชีอิน (Shein) และเทมู (Temu) ของพีดีดี โฮลดิ่งส์ (PDD Holdings)
ก่อนหน้านี้จีนขึ้นภาษีศุลกากรแบบตอบโต้กับสินค้านำเข้าจากสหรัฐหลายรายการ และยังจำกัดการส่งออกแร่หายาก (Rare Earths) รวมถึงสอบสวนบริษัทจากสหรัฐเพิ่มเติมด้วย
อย่างไรก็ตาม มาตรการภาษีที่เพิ่มขึ้นล่าสุด อาจทำให้แผนการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลจีนยากขึ้น ขณะที่จีนยังเผชิญปัญหาภาคการผลิตล้นเกิน จนสินค้ามีราคาตกต่ำ หากซ้ำเติมด้วยการส่งออกที่ลดลงอาจทำให้ปัญหาแย่ลงมากขึ้นไปอีก
มาตรการตอบโต้ล่าสุดของจีน
หลังถูกประกาศเรียกเก็บภาษีมากขึ้น จีนออกมาตรการตอบโต้ทันทีด้วยการออกข้อจำกัดให้บริษัทจีนไปลงทุนในสหรัฐได้ยากขึ้น คณะกรรมการปฏิรูปและการพัฒนาแห่งชาติ (NDRC) ได้รับคำสั่งในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ให้ชะลอการลงทะเบียนและชะลอการอนุมัติกับบริษัทที่ต้องการลงทุนในสหรัฐ
ก่อนหน้านี้จีนเคยจำกัดการลงทุนจากต่างประเทศ ด้วยเหตุผลที่เชื่อมโยงกับความมั่นคง และป้องกันการไหลออกของเงินทุน อย่างไรก็ตาม ยังไม่ชัดเจนว่ากระบวนการชะลอการลงทุนในสหรัฐนี้จะกินเวลานานเพียงไร และมีผลกระทบอะไรอื่นอีกหรือไม่