
อังกฤษยันเจรจาไม่ตอบโต้ หลังถูกขึ้นกำแพงภาษีอีก 10% จากสหรัฐ ด้านคลังสมองอังกฤษเผย ครัวเรือนอังกฤษอาจต้องแบกค่าครองชีพสูงขึ้นอีก 400 ปอนด์
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า อังกฤษยืนยันเร่งผลักดันการเจรจาโดยระงับมาตรการตอบโต้ หลังทรัมป์ประกาศเก็บภาษีอัตรา 10% จะมีผลในวันที่ 5 เมษายน 2025 ด้านโจนาธาน เรย์โนลด์ส (Jonathan Reynolds) รัฐมนตรีธุรกิจและการพาณิชย์อังกฤษออกแถลงการณ์ว่า อังกฤษจะยังคงรักษาแนวทางการเจรจา ซึ่งหวังว่าจะช่วยลดผลกระทบของมาตรการภาษีที่ประกาศในวันนี้ เพราะสงครามการค้าเป็นสิ่งที่ผู้คนไม่ต้องการ
อย่างไรก็ตาม ราเชล รีฟส์ (Rachel Reeves) รัฐมนตรีคลังอังกฤษกล่าวกับที่ประชุมคณะกรรมการคลังของสภาสามัญก่อนหน้านั้นไม่นานว่า มาตรการภาษีไม่สลักสำคัญต่อเศรษฐกิจของอังกฤษโดยตรง แต่ภาวะเงินเฟ้อและการค้าที่หดตัวทั่วโลกนี้เองที่จะมีผลสำคัญต่ออังกฤษ
ก่อนหน้านี้ รัฐบาลอังกฤษเชื่อว่าจะสามารถต่อรองจนได้รับการยกเว้นภาษีจากสหรัฐ หากผ่อนปรนภาษีบริการดิจิตัลที่เรียกเก็บกับทาง เมต้า (Meta) เจ้าของเฟซบุ๊ก (Facebook) อเมซอน (Amazon) และเอ็กซ์ (X) ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นบริษัทเทคยักษ์ใหญ่จากสหรัฐ
แม้จะโดนเรียกเก็บภาษีเพิ่มเติม แต่สภาหอการค้าอังกฤษ (British Chambers of Commerce) และสมาพันธ์อุตสาหกรรมอังกฤษ (CBI) ก็ออกมาแสดงความเห็นในทิศทางเดียวกันกับรัฐมนตรีพาณิชย์ว่า ไม่มีใครต้องการสงครามการค้า เพราะสงครามจะทำให้ทุกคนแพ้เหมือนกันหมด ซึ่งอังกฤษจะหาข้อตกลงที่ดีที่สุดอย่างใจเย็นและสงบ
ครัวเรือนอังกฤษค่าครองชีพพุ่ง 400 ปอนด์
รีโซลูชัน ฟาวเดชั่น (Resolution Foundation) สถาบันคลังสมองของอังกฤษประเมินว่าครัวเรือนอังกฤษจะแบกรับค่าครองชีพสูงขึ้นครัวเรือนละ 400 ปอนด์ (ราว 28,000 บาท) ซึ่งสำนักงานรับผิดชอบงบประมาณของอังกฤษ (OBR) ประมาณการว่าสงครามการค้าจะทำให้จีดีพีอังกฤษเติบโตลดลง 1 จุดเปอร์เซ็นต์