
ปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาอาวุโสด้านการค้าของทำเนียบขาว กล่าวว่า กรณีที่เวียดนามยื่นข้อเสนอลดภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ 0% ไม่เพียงพอ โดยระบุว่าการโกงที่ไม่ใช่ภาษีต่างหากที่สำคัญ
ซีเอ็นบีซี (CNBC) รายงานว่า ปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาอาวุโสด้านการค้าของรัฐบาลสหรัฐกล่าวเมื่อวันจันทร์ที่ 7 เมษายน เวลาท้องถิ่น ว่าข้อเสนอของเวียดนามในการยกเลิกภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐยังไม่เพียงพอที่จะทำให้สหรัฐยกเลิกภาษีใหม่ที่ประกาศเก็บกับเวียดนามในอัตรา 46% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
“มาลองดูเวียดนามกันดีกว่า เมื่อพวกเขามาหาเราแล้วบอกว่า ‘เราจะลดภาษีเป็นศูนย์’ นั่นไม่มีความหมายสำหรับเราเลย เพราะการโกงที่ไม่ใช่ภาษีต่างหากที่สำคัญ” นาวาร์โรกล่าวในรายการ “Squawk Box”
ตัวอย่างของการ “โกง” ที่ไม่ใช่ภาษีที่นาวาร์โรอ้างถึง ได้แก่ สินค้าจีนที่ถูกส่งผ่านเวียดนาม การขโมยทรัพย์สินทางปัญญา และภาษีมูลค่าเพิ่ม
ความคิดเห็นของนาวาร์โรมีขึ้นหลังจากที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าวในโพสต์ของ Truth Social เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาว่า โต เลิม เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เสนอที่จะลดภาษีสินค้าสหรัฐเป็นศูนย์ ต่อมาในการสัมภาษณ์เมื่อวันจันทร์ที่ 7 เมษายน นาวาร์โรได้แก้ไขคำพูดของตัวเองใหม่ โดยกล่าวว่าข้อเสนอที่ไม่เสียภาษีศุลกากรนั้นเป็นเพียงการเริ่มต้นเล็ก ๆ น้อย ๆ
สหรัฐต้องการให้ประตูหลังของจีน อย่างกัมพูชา เม็กซิโก เวียดนามหยุดส่งสินค้าจีนไปสหรัฐ และไม่ใช่เรื่องที่จะมาต่อรองได้ นาวาร์โร หนึ่งในพันธมิตรที่สนับสนุนนโยบายคุ้มครองการค้าของทรัมป์ เขียนในไฟแนนเชียล ไทม์ส (Financial Times) ว่าทีมงานของประธานาธิบดีต้องการได้ยินจากประเทศต่าง ๆ เช่น กัมพูชา เม็กซิโก และเวียดนามว่าพวกเขาจะยุติการใช้ประเทศเป็นทางผ่านส่งสินค้าจีนไปยังสหรัฐ และว่า แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะเจรจาต่อรองกันได้
เวียดนามเป็นศูนย์กลางการผลิตของบริษัทหลายแห่งที่จำหน่ายผลิตภัณฑ์ในสหรัฐอเมริกา รวมถึงผู้ค้าปลีกเครื่องแต่งกาย เช่น ไนกี้ ซึ่งรัฐบาลทรัมป์กล่าวว่าจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าจากเวียดนามในอัตรา 46% ในการประกาศภาษีแบบต่างตอบโต้ที่สวนกุหลาบทำเนียบขาว เมื่อ 2 เมษายนที่ผ่านมา
สำหรับภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นระบบที่ใช้โดยหลายประเทศทั่วโลก และในบางแง่ก็คล้ายกับภาษีการขายในสหรัฐ ซึ่งข้อโต้แย้งของรัฐบาลทรัมป์ที่ว่าภาษีมูลค่าเพิ่มควรถือเป็นอุปสรรคทางการค้านั้น ไม่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง
นาวาร์โรกล่าวว่า สหรัฐพยายามขอการผ่อนปรนภาษีมูลค่าเพิ่มจากองค์การการค้าโลกมาตั้งแต่ทศวรรษ 1970 แต่ก็โดนปฏิเสธทุกครั้ง และว่าภาษีมูลค่าเพิ่มจะเป็นประเด็นปัญหาในการเจรจาใด ๆ เกี่ยวกับภาษีศุลกากรกับสหภาพยุโรป (อียู)