
นักวิเคราะห์มองจังหวะทองช้อนหุ้นอเมริกา แม้มีสัญญาณตลาดหมี
รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า ตลาดหุ้นสหรัฐที่เผชิญแรงเทขายอย่างหนัก จากผลกระทบของมาตรการภาษี จนเกิดรูปแบบ “Death Cross” ขึ้น กล่าวคือ เส้นผลตอบแทนเฉลี่ยระยะสั้น 50 วัน (DMA) อยู่ต่ำกว่าเส้นผลตอบแทนเฉลี่ยระยะยาว 200 วัน ซึ่งบ่งบอกถึงแนวโน้มตลาดว่ากำลังอยู่ในช่วงขาลง หรือตลาดหมี อย่างไรก็ตาม จากแนวโน้มในอดีตย้ำเตือนให้นักลงทุนเห็นแล้วว่า สัญญาณร้ายดังกล่าวอาจไม่น่ากังวลมากเท่าที่คิด
เส้นผลตอบแทนเฉลี่ยระยะสั้นของดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐ S&P 500 ร่วงลงมาอยู่ที่ 5,748 จุด ขณะที่เส้นผลตอบแทนเฉลี่ยระยะยาวอยู่ที่ 5,754 จุด นับเป็นการขยับลงต่ำกว่าเส้นผลตอบแทนเฉลี่ยระยะยาวเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2023
โดยก่อนหน้านี้ ดัชนี Nasdaq เกิด Death Cross ขึ้นในวันพุธที่ 9 เมษายน 2025
อดัม เทิร์นควิส (Adam Turnquist) หัวหน้าฝ่ายยุทธศาสตร์การลงทุนของ แอลพีแอล ไฟแนนเชียล (LPL Financial) กล่าวว่า Death Cross อาจเป็นสัญญาณที่ฟังดูเป็นลางไม่ดีนัก แต้ถ้าดูสิ่งที่เคยเกิดขึ้นในอดีตแล้ว พบว่านี่เป็นช่วงเวลาที่เหมาะแก่การซื้อหุ้นมากกว่าขายหุ้นที่มีอยู่
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์ของรอยเตอร์แสดงข้อมูลว่า ตลอด 50 ปีที่ผ่านมา S&P 500 เผชิญสัญญาณ Death Cross แล้วกว่า 24 ครั้ง ซึ่ง 54% ในนั้น Death Cross เกิดขึ้นหลังจากที่ดัชนีลดลงสูงสุดในระหว่างวัน หมายความว่าจุดที่เลวร้ายที่สุดผ่านไปแล้วก่อนเกิด Death Cross
ขณะที่ 46% ของการเกิด Death Cross แสดงให้เห็นถึงการเทขายหุ้นอย่างหนัก หลังเกิด Death Cross ในปี 1981, 2000 และ 2007 พบว่าตลาดหุ้นร่วงลงมากสุดคือ 21% 45% และ 55% ตามลำดับ
พอล เซียน่า (Paul Ciana) นักวิเคราะห์จากแบงก์ ออฟ อเมริกา กล่าวว่า เมื่อดูข้อมูลในช่วงเกือบ 100 ปีที่ผ่านมา ดัชนี S&P 500 ร่วงลง 52% หลังเกิด Death Cross เป็นเวลา 20 วัน แต่หลังผ่านช่วง 30 วัน ดัชนีจะสูงขึ้นกว่า 60%