เอ็นวิเดียเตือนสหรัฐ คุมส่งออกชิป H20 ไปจีน ทำบริษัทสูญ 5,500 ล้านดอลลาร์

เอ็นวิเดียเตือนสหรัฐคุมส่งออกชิป H20 ไปจีน ทำบริษัทสูญค่าใช้จ่าย 5,500 ล้านดอลลาร์

รอยเตอร์ (Reuters) รายงานว่า เอ็นวิเดีย (Nvidia) ประกาศเตือนในวันที่ 15 เมษายน 2025 ว่าทางบริษัทอาจต้องสูญเงินกว่า 5,500 ล้านดอลลาร์ (ราว 183,000 ล้านบาท) หลังรัฐบาลสหรัฐจำกัดการส่งออกชิป H20 สำหรับใช้พัฒนาปัญญาประดิษฐ์ไปยังจีน ตลาดสำคัญของเอ็นวิเดีย

ชิปเอไอของเอ็นวิเดียถูกสหรัฐจับตาอย่างมากในช่วงหลังมานี้ และมีการควบคุมการส่งออกโดยรัฐบาลอย่างเข้มงวด เพื่อสกัดไม่ให้จีนเข้าถึงเทคโนโลยีล้ำหน้า เอ็นวิเดียจึงจำเป็นต้องออกแบบชิปรุ่นที่รองลงมาเพื่อให้ใกล้เคียงกับข้อจำกัดของสหรัฐ

โฆษกกระทรวงพาณิชย์สหรัฐกล่าวในช่วงค่ำของวันที่ 15 เมษายนว่า กำลังออกเงื่อนไขใหม่สำหรับการขอใบอนุญาตส่งออกชิป กับบรรดาผู้ผลิตชิปทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเอ็นวิเดีย เอเอ็มดี (AMD) หรือเจ้าอื่น ๆ และยังกล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์สหรัฐรับคำสั่งโดยตรงจากประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ให้คุ้มกันความมั่นคงทางเศรษฐกิจของชาติ

สำหรับเอ็นวิเดีย ชิป H20 เป็นชิปที่ล้ำหน้าที่สุดเท่าที่จะขายให้จีนได้ ซึ่งขณะนี้อุตสาหกรรมเอไอของจีนกำลังเติบโต บริษัทจีนหลายราย ไม่ว่าจะเป็น เท็นเซ็นต์ (Tencent) อาลีบาบา (Alibaba) และไบต์แดนซ์ (ByteDance) บริษัทแม่ของติ๊กต๊อก (TikTok) ต่างตบเท้าสั่งชิป H20 หลังดีปซีก (DeepSeek) ทำให้กระแสความต้องการโมเดลเอไอต้นทุนต่ำเบ่งบานอย่างมากในจีน

แม้ชิป H20 ไม่ได้มีศักยภาพมากนัก เมื่อเทียบกับชิปรุ่นอื่น ๆ ที่เอ็นวิเดียวางขายนอกแผ่นดินจีน แต่ชิป H20 ก็มีศักยภาพมากพอในขั้นตอนการอนุมาน ซึ่งกลายเป็นภาคส่วนสำคัญของตลาดชิปในจีน ซึ่งเจนเซน หวง (Jensen Huang) ซีอีโอของเอ็นวิเดียมองว่าเอ็นวิเดียกำลังได้เปรียบ

อย่างไรก็ตาม เอ็นวิเดียประกาศในวันที่ 15 เมษายนว่า รัฐบาลสหรัฐจำกัดการส่งออกชิป H20 ไปยังจีน เนื่องจากมีความเสี่ยงว่าจีนอาจนำชิปดังกล่าวไปใช้พัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์ แม้ชิป H20 จะมีศักยภาพต่ำกว่าชิปรุ่นอื่น ๆ ของเอ็นวิเดีย แต่ก็ยังถือว่าสูงอยู่ในการเชื่อมต่อกับชิปหน่วยความจำและชิปประมวลผลอื่น ๆ

ซึ่งความเร็วของการเชื่อมต่อชิปหน่วยความจำเข้ากับชิปประมวลผล อาจทำให้ชิป H20 มีประโยชน์ในการพัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์ในจีน และสหรัฐได้จำกัดการส่งออกชิปสำหรับพัฒนาซูเปอร์คอมพิวเตอร์ไปยังจีนมาตั้งแต่ปี 2022 โดยสถาบันเพื่อความก้าวหน้า (The Institute for Progress) คลังสมองในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สนับสนุนการจำกัดชิป H20 โดยระบุว่า “บริษัทจีนอาจสร้างระบบดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว น่าจะมีอย่างน้อยหนึ่งราย นั่นคือเท็นเซ็นต์ ที่ติดตั้งชิป H20 ในสถานที่ที่ใช้ฝึกโมเดลขนาดใหญ่แล้ว และมีแนวโน้มสูงมากที่จะมีการละเมิดเกณฑ์ควบคุมการใช้งานชิปสำหรับซูเปอร์คอมพิวเตอร์ เช่นเดียวกับการฝึกโมเดล V3 ของดีปซีก” 

เอ็นวิเดียระบุในวันที่ 15 เมษายนว่า รัฐบาลสหรัฐแจ้งกับทางบริษัทในวันที่ 9 เมษายนว่า ชิป H20 จะต้องอาศัยใบอนุญาตการส่งออกไปยังจีน และแจ้งต่อเอ็นวิเดียในวันที่ 14 เมษายนว่า กฎดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้อย่างไม่มีกำหนด ซึ่งขณะนี้ยังไม่ชัดเจนว่าสหรัฐจะออกใบอนุญาตมากน้อยเพียงใด

เอ็นวิเดียกล่าวว่า ขณะนี้ทางบริษัทมีค่าใช้จ่ายราว 5,500 ล้านดอลลาร์สำหรับการผลิตชิป H20 การสำรองสินค้าคงคลัง และการทำสัญญาซื้อขาย