จีนเอาสินค้าส่งออก ขายตลาดในประเทศแทนยอมโดนผลกระทบภาษี

ท่าเรือหยานเทียน เมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง ภาพโดย REUTERS/Tingshu Wang
ท่าเรือหยานเทียน เมืองเซินเจิ้น มณฑลกวางตุ้ง ภาพโดย REUTERS/Tingshu Wang

จีนเอาสินค้าส่งออก ขายตลาดในประเทศแทนยอมโดนผลกระทบภาษี

บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า จีนรับปากจะใช้ตลาดขนาดใหญ่ในประเทศช่วยเหลือผู้ประกอบการส่งออก รับมือ ‘ผลกระทบจากภายนอก’ เป็นการส่งสัญญาณให้ผู้ส่งออกมั่นใจ ท่ามกลางสงครามการค้าระหว่างสหรัฐ

กระทรวงพาณิชย์ ระบุในแถลงการณ์วันที่ 18 เมษายน 2025 โดยอ้างอิงผลการประชุมซึ่งมีนายเชิ่ง ชิวผิง (Sheng Qiuping) รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์จีนเข้าร่วมว่า ตลาดภายในประเทศช่วยในการสนับสนุนผู้ทำการค้ากับต่างประเทศ

กระทรวงพาณิชย์ระบุว่า จีนจำเป็นต้องใช้ข้อได้เปรียบที่มีให้เป็นประโยชน์ ทั้งยังสนับสนุนให้รักษาเสถียรภาพของการค้าไปต่างประเทศและขยายการบริโภคไปพร้อมกัน

การประชุมของกระทรวงพาณิชย์เกิดขึ้นหลังจากที่บรรดาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซรายใหญ่ ได้แก่ เจดีดอตคอม (JD.com) อาลีบาบา กรุ๊ป (Alibaba Group) และเท็นเซ็นต์ โฮลดิ้งส์ (Tencent Holdings) ประกาศโครงการที่มุ่งช่วยเหลือผู้ส่งออกให้สามารถขยายธุรกิจในประเทศได้ ซึ่งทางเจดีดอตคอมเผยว่าจะซื้อผลิตภัณฑ์จากผู้ส่งออกมูลค่าไม่น้อยกว่า 200,000 ล้านหยวน (ราว 900,000 ล้านบาท) เพื่อช่วยให้ผู้ส่งออกขายในประเทศได้ภายในปีหน้า

อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าวอาจประสบความสำเร็จได้ยาก เนื่องจากความเชื่อมั่นทางธุรกิจในปัจจุบัน และความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังคงสั่นคลอน อีกทั้งตลาดแรงงานที่อ่อนแอ ทำให้ผู้คนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย

ADVERTISMENT

นอกจากนี้ จีนยังประสบปัญหาการผลิตล้นเกินในบางอุตสาหกรรม ซึ่งซ้ำเติมปัญหาการแข่งขันด้านราคา และทบทวีแรงกดดันด้านเงินฝืดในเศรษฐกิจ 

กระทรวงพาณิชย์เคยประกาศก่อนหน้านี้แล้วว่าจะมีมาตรการช่วยเหลือผู้ส่งออกด้วยการร่วมมือกับสมาคมอุตสาหกรรม ซูเปอร์มาร์เก็ต และแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ

ADVERTISMENT

เมื่อวันที่ 13 เมษายน กระทรวงพาณิชย์จัดโครงการสนับสนุนการขายผลิตภัณฑ์ที่เดิมทีแล้วผลิตขึ้นสำหรับการส่งออก ครอบคลุมกลุ่มผู้ค้าในภาคส่วนต่าง ๆ ได้แก่ ผลิตภัณฑ์เครื่องกลและเครื่องใช้ไฟฟ้า สิ่งทอ อาหาร โลหะ แร่ธาตุ สารเคมี และผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพ ในพื้นที่ทางตอนใต้ของมณฑลไหหนาน และกล่าวว่ามีแผนที่จะขยายโครงการในอีก 10 มณฑล

ผู้ส่งออกชาวจีนต่างพากันประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียเกี่ยวกับโครงการและสินค้าดังกล่าว