เมื่อวันที่ 25 มิถุนายน สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า สหภาพยุโรป(อียู) จะประกาศการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของทางการพม่า 7 ราย ส่วนหนึ่งของตอบโต้การละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเป็นระบบที่เกิดขึ้นกับชาวโรฮีนจา ชนกลุ่มน้อยชาวมุสลิมในประเทศพม่า โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงทั้ง 7 คนดังกล่าวจะถูกยึดทรัพย์สินและถูกห้ามเดินทางเข้ามาในดินแดนของสหภาพยุโรป
โดยมาตรการคว่ำบาตรข้างต้นที่ได้รับการเปิดเผยจากนักการทูตอียู เป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงนโยบายทางการทูตของอียูที่ก่อนหน้านี้ได้ระงับการดำเนินมาตรการเข้มงวดใดๆกับพม่านับจากปี 2555 เพื่อเป็นการสนับสนุนในการเปลี่ยนแปลงสู่ประชาธิปไตยในพม่าหลังสิ้นยุคอำนาจเผด็จการทหาร ซึ่งก่อนหน้านี้อียูได้คว่ำบาตรทางการค้าอาวุธและห้ามการซ้อมรบหรือการร่วมมือทางทหารกับกองทัพพม่าไปแล้ว
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- บังคับใช้แล้ว! หลักเกณฑ์การดำเนินงาน 30 บาทรักษาทุกที่ ด้วยบัตรประชาชนใบเดียว
- อะไรทำให้ “ทองคำ” แพง สงคราม หรือการเก็งกำไร ?
ข่าวแจ้งว่า ชะตากรรมของชาวโรฮีนจาเกือบ 700,000 คนในรัฐยะไข่ที่ต้องอพยพหนีออกจากถิ่นฐานของตนเองเนื่องจากถูกทหารพม่าปราบปรามรุนแรงอย่างหนัก ได้จุดเสียงก่นประณามจากประชาคมโลกรวมถึงสหประชาชาติที่ตราหน้าการกระทำดังกล่าวว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ส่งผลให้บรรยากาศความสัมพันธ์ของพม่ากับนานาชาติเสื่อมถอยลง ขณะที่รัฐบาลพม่าปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาว่าไม่ได้ทำอะไรผิด