
จีนส่งสัญญาณสันติภาพ พร้อมสนับสนุนความร่วมมือกับโบอิ้ง หลังบรรดาสายการบินจีนปฏิเสธเครื่องบินรุ่นใหม่ จากผลกระทบของสงครามการค้า ซึ่งทำให้ต้นทุนเครื่องบินสูงขึ้น
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า กระทรวงพาณิชย์จีนออกแถลงการณ์ในวันที่ 29 เมษายน 2025 ว่า จีนเต็มใจที่จะสนับสนุนความร่วมมือทั่วไปกับโบอิ้ง (Boeing) บริษัทผลิตเครื่องบินสัญชาติสหรัฐ ซึ่งเป็นเวลาไม่กี่วันหลังโบอิ้งถูกสายการบินจีนปฏิเสธที่จะรับมอบเครื่องบินลำใหม่
แถลงการณ์มีเนื้อหาว่า ทางการจีนตระหนักถึงมาตรการภาษีที่โดนัลด์ ทรัมป์ (Donald Trump) ประธานาธิบดีสหรัฐประกาศไว้อย่างสูงจนสร้างความปั่นป่วนของตลาดขนส่งมวลชนทางอากาศไปทั่วโลก ซึ่งส่งผลกระทบต่อสายการบินจีน และโบอิ้งอย่างรุนแรง สุดท้ายแล้ว จีนหวังว่าสหรัฐจะสามารถสร้างบรรยากาศทางการค้าที่มีเสถียรภาพและสามารถคาดเดากิจกรรมการลงทุนได้
ทางการจีนสั่งเมื่อต้นเดือนเมษายน ไม่ให้สายการบินในประเทศรับมอบเครื่องบินเจ็ตของโบอิ้ง เพื่อเป็นการตอบโต้กำแพงภาษี 145% ของสหรัฐ ซึ่งจีนตอบโต้ด้วยการตั้งภาษีนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ 125% เช่นกัน โดยอัตราดังกล่าวทำให้ต้นทุนอะไหล่และชิ้นส่วนเครื่องบินนำเข้าจากสหรัฐแพงขึ้นเป็นสองเท่า จนสายการบินจีนไม่สามารถแบกรับได้
เคลลี่ ออร์ตเบิร์ก (Kelly Ortberg) ซีอีโอโบอิ้ง ยืนยันเมื่อวันที่ 23 เมษายนว่า จีนหยุดรับมอบเครื่องบินจากทางโบอิ้งแล้ว ซึ่งโบอิ้งจำป็นต้องเตรียมตัวหาผู้ซื้อรายใหม่แทนจีน โดยออร์ตเบิร์กกล่าวในการรายงานผลประกอบการประจำปีว่า “เรากำลังเจรจากับลูกค้าชาวจีนของเราอย่างใกล้ชิด และเราก็ตั้งหน้าตั้งตาหาตลาดทางเลือกอื่น สำหรับเครื่องบินที่ประกอบแล้วและกำลังประกอบ”
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวนำมาซึ่งข้อสงสัยว่า เครื่องบินเจ็ต 50 ลำ ที่จะถูกส่งไปจีนในปีนี้ จะมีชะตากรรมเช่นไรต่อไป ซึ่งโบอิ้งได้นำเครื่องบินรุ่น 737 แม็กซ์ เจ็ต ที่ถูกสายการบินจีนปฏิเสธส่งกลับไปสหรัฐแล้ว
แอร์ อินเดีย (Air India) เป็นหนึ่งในสายการบินที่ยินดีรับเครื่องบินรุ่น 737 แม็กซ์ เจ็ต ทั้งยังส่งสัญญานแสดงความต้องการเครื่องบินเพิ่มเติมอีกด้วย
สัญญาณแห่งสันติภาพครั้งล่าสุดนี้ อาจเป็นประโยชน์ต่อสายการบินจีน ซึ่งพึ่งพาเครื่องบินของโบอิ้งอย่างมาก จีนประมาณการว่าจะสามารถผลิตเครื่องบินได้ 20% ของอุปสงค์ทั่วโลกในอีก 20 ปีข้างหน้า ซึ่งในปี 2018 เครื่องบินของโบอิ้งกว่า 25% ถูกส่งขายไปยังจีน