
ศาลอุทธรณ์สั่งระงับคำตัดสินศาลการค้าฯที่ขัดขวางภาษีของทรัมป์ ในระหว่างการรอพิจารณาคดีที่ฝ่ายรัฐบาลยื่นอุทธรณ์ ทำให้ภาษีของทรัมป์กลับมามีผลในขณะนี้
แอ็กซิออส (Axios) และบลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า วันที่ 29 พฤษภาคม เวลาท้องถิ่นศาลอุทธรณ์ระดับรัฐบาลกลาง (The U.S. Court of Appeals for the Federal Circuit) ได้สั่งระงับคำตัดสินศาลการค้าระหว่างประเทศ (The U.S. International Trade ) ซึ่งคือศาลชั้นต้นเป็นการชั่วคราว ทำให้รัฐบาลทรัมป์สามารถกลับมาเก็บภาษีต่อได้ชั่วคราวระหว่างรอผลการตัดสินของศาลอุทธรณ์
ย้อนกลับไปเมื่อวาน (28 พฤษภาคม) เวลาสหรัฐ ศาลการค้าฯได้ตัดสินว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐจากพรรครีพับลิกันไม่มีอำนาจตามพระราชบัญญัติอำนาจเศรษฐกิจฉุกเฉินระหว่างประเทศ 1977 ในการกำหนดภาษีศุลกากรแบบตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ที่สหรัฐเก็บเกือบทุกประเทศทั่วโลก (ไทย 36 %) และภาษีศุลกากรที่เรียกเก็บกับแคนาดา เม็กซิโก และจีนที่ถูกเชื่อมโยงกับการลักลอบนำเข้าสารเสพติดเฟนทานิลเข้าสหรัฐ
รัฐบาลสหรัฐ ซึ่งเป็นฝ่ายบริหารยื่นอุทธรณ์ทันที และหากไม่ชนะอีก รัฐบาลบอกอย่างชัดเจนว่าจะสามารถยื่นเรื่องต่อศาลสูงสุด (Supreme Court) โดยตรงเพื่อขอความช่วยเหลือหากศาลอื่นไม่ดำเนินการอย่างรวดเร็ว
กระทั่ง ศาลอุทธรณ์ได้ออกคำสั่งให้ระงับคำตัดสินของศาลการค้า ซึ่งเป็นศาลชั้นล่างไปพลางก่อน (แต่มิได้ยกเลิกคำตัดสินศาล) ในระหว่างที่ศาลอุทธรณ์พิจารณาคำร้องจากทั้งสองฝ่าย โดยสั่งให้คู่กรณี ซึ่งคือฝ่ายโจทก์ในคดีนี้ยื่นเอกสารสู้คดีภายในวันที่ 5 มิถุนายน และให้รัฐบาลยื่นเอกสารภายในวันที่ 9 มิถุนายนนี้
ทั้งนี้ โจทก์ในคดีสำคัญนี้ มีสองกลุ่ม กลุ่มแรกคือ 12 รัฐที่ล้วนนำโดยพรรคเดโมแครต และกลุ่มธุรกิจนำเข้าขนาดเล็ก ได้ฟ้องร้องต่อศาลการค้าฯ โต้แย้งว่าประธานาธิบดีทรัมป์ละเมิดอำนาจของรัฐธรรมนูญที่มอบอำนาจเรื่องภาษีศุลกากรแก่รัฐสภา
12 รัฐที่ระบุเป็นโจทก์ในคดีฟ้องร้อง ได้แก่ โอเรกอน แอริโซนา โคโลราโด คอนเนตทิคัต เดลาแวร์ อิลลินอยส์ เมน มินนิโซตา เนวาดา นิวเม็กซิโก นิวยอร์ก และเวอร์มอนต์
ทางด้านทีมทำงานของทรัมป์ออกมาเคลื่อนไหวให้คำมั่นนโยบายภาษีของรัฐบาลยังอยู่
“ผมรับรองกับคุณที่เป็นชาวอเมริกันได้ว่านโยบายการขึ้นภาษีของทรัมป์ยังคงมีผลบังคับใช้อยู่ ยังแข็งแรง และจะถูกนำมาใช้เพื่อปกป้องคุณ เพื่อรักษาตำแหน่งงานและโรงงานของคุณ” ปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาอาวุโสด้านการค้าและการผลิตกล่าว
“อเมริกาไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ หากประธานาธิบดีทรัมป์ หรือประธานาธิบดีคนอื่นๆ ถูกผู้พิพากษาที่เป็นนักเคลื่อนไหวกีดกันการเจรจาทางการทูตหรือการค้าที่ละเอียดอ่อน” แคโรไลน์ ลีวิตต์ โฆษกทำเนียบขาวกล่าวและระบุอีกว่า ท้ายที่สุดแล้ว ศาลสูงสุดจะต้องยุติเรื่องนี้เพื่อประโยชน์ของรัฐธรรมนูญและประเทศ