
รัฐบาลจีนรายได้หด หลังยอดขายที่ดินของรัฐบาล ต่ำสุดในรอบ 10 ปี ตอกย้ำภาคอสังหาฯในประเทศที่ยังคงอ่อนแอ
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) รายงานว่า รัฐบาลจีนขาดดุลมากขึ้น หลังมีรายได้จากการขายที่ดินร่วงต่ำสุดในรอบ 10 ปี ขณะที่ต้องขยายการใช้จ่ายภาครัฐเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจในประเทศ
บลูมเบิร์กคำนวณตัวเลขจากกระทรวงการคลังจีนที่เผยแพร่เมื่อวันศุกร์ที่ 20 มิถุนายน 2025 พบว่า รายได้จากการขายที่ดินของรัฐบาลจีนในเดือนพฤษภาคมร่วงลง 14.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี (YOY) เหลือเพียง 194,100 ล้านหยวน (ราว 890,000 ล้านบาท) ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2015 สวนทางกับเดือนเมษายนก่อนหน้านั้นที่เพิ่มขึ้น 4.3% และเพิ่มเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน
ยอดขายที่ดินที่ลดลงทำให้รัฐบาลจีนมีรายได้โดยรวมลดลง เหลือเพียง 11.2 ล้านล้านหยวน (ราว 51 ล้านล้านบาท) ตลอด 5 เดือนแรกของปี ขณะที่รายจ่ายงบประมาณพุ่งขึ้นสูงถึง 14.5 ล้านล้านหยวน (ราว 66 ล้านล้านบาท) มากสุดในรอบ 3 ปี และมีงบประมาณขาดดุลเป็น 3.3 ล้านล้านหยวน (ราว 15 ล้านล้านบาท)
ยอดขายที่ดินที่ลดลง ตอกย้ำถึงภาคอสังหาฯในประเทศที่ยังคงอ่อนแอ และยังเป็นปัจจัยหลักที่ฉุดรั้งการเติบโตของเศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งต้องเผชิญกับมาตรการภาษีจากสหรัฐที่กีดขวางการส่งออกอีกด้วย
ลี่เซิง หวัง (Lisheng Wang) นักเศรษฐศาสตร์จากโกลด์แมน แซกส์ กรุ๊ป (Goldman Sachs Group) คาดว่ารายได้จากการขายที่ดินของรัฐบาลจีนอาจร่วงลง 5-10% ในปีนี้ ขณะที่ภาคการก่อสร้างและการลงทุนน่าจะต่ำลงได้อีก
รายได้ภาษีที่เกี่ยวกับภาคอสังหาฯ เช่น ภาษีที่ดินจากการซื้ออสังหาฯ ร่วงลง 8.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี (YOY) ในเดือนพฤษภาคม เพิ่มขึ้นจากเดือนก่อนที่ร่วง 0.9%
ส่วนรายได้ภาษีโดยรวมเพิ่มขึ้น 0.6% ในเดือนพฤษภาคม จากที่เพิ่ม 1.9% ในเดือนเมษายน
รายจ่ายของภาครัฐเป็นกำลังสำคัญในการฟื้นอุปสงค์ในประเทศ ผ่านโครงการมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าเก่าแลกใหม่ ภายใต้เงินทุนที่ระดมมาจากการออกพันธบัตรพิเศษ ซึ่งได้รับความนิยมอย่างมาก จนบางพื้นที่ต้องยกเลิกโครงการดังกล่าวไป เนื่องจากเงินอุดหนุนหมดเกลี้ยง
ทั้งนี้ รัฐบาลจีนให้คำมั่นว่าจะกลับมามอบเงินอุดหนุนอีกครั้งในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปี
ซึ่งทางลี่เซิง หวังจากโกลด์แมนด์ แซกส์ คาดว่ารัฐบาลจีนจะเดินนโยบายการคลังขยายตัวอีกในช่วงครึ่งหลังของปี เพื่อลดปัญหาเงินฝืด และกระตุ้นความเชื่อมั่นของตลาด รวมถึงมีความเป็นไปได้ที่จะมีการปรับปรุงงบประมาณ แม้ว่ารัฐบาลจีนจะดูไม่รีบร้อนก็ตาม เนื่องจากการเติบโตทางเศรษฐกิจยังคงเป็นไปตามเป้า 5% ตลอดช่วงครึ่งแรกของปี