
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐประสบชัยชนะ หลังได้รับการรับรองเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ต่อนโยบายภายในประเทศ จากฝ่ายนิติบัญญัติ โดยสภาผู้แทนราษฎรผ่าน “ร่างกฎหมายงดงามยิ่งใหญ่” หรือ One Big Beautiful Bill Act (OBBBA) ร่างกฎหมายงบประมาณที่ลดหย่อนภาษี รวมถึงพลิกกลับความพยายามของโจ ไบเดนในการผลักดันประเทศให้มุ่งสู่เศรษฐกิจพลังงานสะอาด
พรรครีพับลิกันเอาชนะความแตกแยกภายในเพื่อผ่านร่างกฎหมายลดหย่อนภาษีและการใช้จ่ายครั้งใหญ่ได้สำเร็จ ทรัมป์เอาชนะแรงต้านจาก สส.สายแข็งและ สส.รัฐสวิงสเตต จนกระทั่งสภาผู้แทนราษฎรมีมติผ่านร่างกฎหมาย 218 ต่อ 214 เสียงเมื่อ 3 กรกฎาคม เวลาท้องถิ่น หลังจากวุฒิสภาลงมติผ่านแบบฉิวเฉียดไปเมื่อ 1 กรกฎาคม
ในระหว่างการลงคะแนนเสียงของ สส.มีเพียงสมาชิกพรรครีพับลิกัน 2 คนเท่านั้น ได้แก่ โทมัส แมสซี จากรัฐเคนตักกี้ และไบรอัน ฟิตซ์แพทริก จากรัฐเพนซิลเวเนีย ที่โหวตแตกแถวจาก สส.ร่วมพรรค โดยเข้าร่วมกับพรรคเดโมแครตเพื่อคัดค้านร่างกฎหมาย
ฮาคีม เจฟฟรีส์จากพรรคเดโมแครตสร้างสถิติใหม่ด้วยการอภิปรายค้านร่างกฎหมายยาวนานต่อเนื่อง โดยไม่ถูกขัดจังหวะเป็นเวลา 8 ชั่วโมง 46 นาที
ทรัมป์ลงนามบังคับใช้เป็นกฎหมาย ในวันชาติหรือวันประกาศอิสรภาพของสหรัฐตรงกับ 4 กรกฎาคม เวลาท้องถิ่น ที่ทำเนียบขาวเรียบร้อยแล้ว

รายละเอียด : ครอบคลุมค่าใช้จ่ายที่สำคัญ
1. การลดหย่อนภาษีในปี 2017 ของทรัมป์ตั้งแต่สมัยแรกกลายเป็นแบบถาวร และให้การลดหย่อนภาษีใหม่ตามสัญญาตอนหาเสียงในปี 2024 ทั้งบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล (รวมถึงบริษัทที่มาลงทุนในภาคการผลิตของสหรัฐ) อาทิ การหักลดหย่อนภาษีชั่วคราวสำหรับผู้ที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป และเพิ่มสิทธิประโยชน์ทางภาษีอื่น ๆ เช่น การยกเลิกภาษีทิปและค่าล่วงเวลา
2.การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญสำหรับ Medicaid (เมดิเคด) หรือโครงการประกันสุขภาพของผู้มีรายได้น้อย ซึ่งสำนักงานงบประมาณของรัฐสภา (CBO) ประมาณการว่าจะส่งผลให้จำนวนผู้ที่มีประกันสุขภาพลดลงเกือบ 12 ล้านคนในทศวรรษหน้า
3.เพิ่มเพดานหนี้เป็น 5 ล้านล้านดอลลาร์ (ราว 162 ล้านล้านบาท) และครอบคลุมเงินทุนในการปราบปรามผู้อพยพ โดยจัดสรรเงิน 175,000 ล้านดอลลาร์ (5.6 ล้านล้านบาท) สำหรับความปลอดภัยที่ชายแดน รวมถึง 150,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 4 ล้านล้านบาท) สำหรับการป้องกันประเทศ
4.เพิ่มเพดานการหักลดหย่อนภาษีของรัฐและท้องถิ่น (SALT) เป็น 40,000 ดอลลาร์ (ราว 1.2 ล้านบาท) เป็นการชั่วคราว ก่อนที่จะกลับไปใช้เพดานปัจจุบันที่ 10,000 ดอลลาร์ (ราว 320,000 บาท) หลังจากผ่านไป 5 ปี
5.เมื่อพิจารณาจากตัวเลขแล้ว สำนักงานงบประมาณของรัฐสภา (CBO) คาดว่ากฎหมายฉบับนี้จะเพิ่มหนี้สาธารณะประมาณ 3.3 ล้านล้านดอลลาร์ (107 ล้านล้านบาท) ในอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งทำให้บรรดานักลงทุนเกิดความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการคลังของสหรัฐ แต่ทำเนียบขาวโต้แย้งการวิเคราะห์ดังกล่าว โดยโต้แย้งว่าจะทำให้การขาดดุลงบประมาณลดลงมากกว่า 5 ล้านล้านดอลลาร์เมื่อหักลบกับการสร้างการเติบโตอื่น ๆ ในอนาคต
6.ช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมน้ำมัน ก๊าซ และถ่านหินสามารถเข้าถึงที่ดินของรัฐบาลกลางได้ครั้งประวัติศาสตร์ ขณะเดียวกันก็ยุติการลดหย่อนภาษีสำหรับบริษัทพลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลม