ไทยแจงท่าทีข้อพิพาทชายแดน เวที UNGA กว่า 190 ชาติ ตอบโต้กัมพูชา

ภาพแฟ้ม คะแนนเสียงของสมาชิกสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ (UNGA) เกี่ยวกับร่างมติเรียกร้องให้หยุดยิงในฉนวนกาซา ในระหว่างการประชุมฉุกเฉินที่สำนักงานใหญ่ของ UN ในนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2025 (REUTERS/Kylie Cooper)
ข้อมูลเผยแพร่เมื่อ 6 ก.ค. เวลา 12.10 น. และอัพเดตล่าสุดเวลา 15.45 น.

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศชี้แจงว่าฝ่ายไทยทำหนังสือแสดงท่าทีและแถลงการณ์ตอบโต้ กรณีกัมพูชานำเรื่องความตึงเครียดตามแนวชายแดนเข้าที่ประชุม UNGA ที่มีสมาชิกกว่า 190 ชาติ

เมื่อ 5 กรกฎาคม 2568 นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ขอชี้แจงต่อข้อซักถามของสื่อมวลชนเกี่ยวกับหนังสือของเอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรของกัมพูชา ณ นครนิวยอร์ก ถึงเลขาธิการสหประชาชาติ (UNSG ) แจ้งความประสงค์ของกัมพูชาที่จะฟ้องร้องเกี่ยวกับประเด็นชายแดนระหว่างไทยกับกัมพูชาต่อศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือ ICJ ดังนี้

1. เมื่อ 16 มิ.ย. 68 เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรของกัมพูชา ณ นครนิวยอร์ก ได้มีหนังสือถึงเลขาธิการสหประชาชาติ (UNSG) เกี่ยวกับสถานการณ์ความตึงเครียดตามแนวทางชายแดนไทย-กัมพูชา โดยขอให้เวียนหนังสือเป็นเอกสารของสมัชชาสหประชาชาติ ภายใต้ระเบียบวาระที่ 32 ของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (UNGA) สมัยที่ 79 เรื่อง Prevention of armed conflict หรือ การป้องกันความขัดแย้งทางอาวุธ

ทั้งนี้ ข้อมูลบนเว็บไซต์สหประชาชาติระบุว่า สมาชิกของ UNGA มีทั้งหมด 193 ชาติ อาทิ เช่น สหรัฐอเมริกา จีน อังกฤษ ฝรั่งเศส รัสเซีย รวมถึงไทย สมาชิกอาเซียนอื่นๆทั้งหมด

ผู้สื่อข่าว “ประชาชาติธุรกิจ” รายงานว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชาสอดคล้องกับที่ดร.ภัทรพงษ์ แสงไกร อาจารย์ประจำศูนย์กฎหมายระหว่างประเทศ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วิเคราะห์ไว้ คือการนำเรื่องเข้าสมัชชาองค์การสหประชาชาติ (UNGA) โดยอ้างว่ามีเหตุการณ์ตึงเครียดบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา จนอาจจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคง และสันติภาพระหว่างประเทศ

อาจารย์ธรรมศาสตร์กล่าวอีกว่า UNGA มีอำนาจในการพิจารณาเรื่องเหล่านี้อยู่แล้ว แต่ยังมีอำนาจในการร้องขอให้ศาลโลกออกความเห็นเชิงแนะนำ (Advisory Opinion) เกี่ยวกับปัญหาข้อกฎหมายที่อยู่ภายในขอบเขตหน้าที่ของ UNGA แต่เดิมกลไกการร้องขอความเห็นนี้ไม่ได้ออกแบบมาใช้เพื่อระงับข้อพิพาทระหว่างรัฐ (คลิกอ่าน “นักวิชาการกฎหมายระหว่างประเทศ วิเคราะห์ไพ่กัมพูชา 4 ใบที่ไทยควรโฟกัส” )

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของไทยชี้แจงต่อ 2. เมื่อ 19 มิ.ย. 68 เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรของไทย ณ นครนิวยอร์ก ได้มีหนังสือถึง UNSG นำส่งแถลงการณ์ Statement by the Royal Thai Government on Thailand – Cambodia border situation ลงวันที่ 18 มิ.ย. 68 ชี้แจงข้อเท็จจริง รวมทั้งท่าทีและการดำเนินการของฝ่ายไทยเกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งเป็นไปตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ ความตกลง MOU2543 (MOU2000) และแนวทางการแก้ไขปัญหาด้วยการเจรจาทวิภาคีตามที่ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงกันไว้และมีพันธกรณี พร้อมขอให้เวียนทั้งหนังสือลงนามและแถลงการณ์ดังกล่าวเป็นเอกสารของสมัชชาสหประชาชาติ (UNGA) ภายใต้ระเบียบวาระที่ 32 ด้วยเช่นกัน

ADVERTISMENT

3. ขณะนี้ UNSG ได้ลงทะเบียนหนังสือของทูตกัมพูชาและหนังสือของทูตไทยข้างต้นเข้าสู่ระเบียบวาระที่ 32 ของสมัชชาสหประชาชาติ (UNGA) สมัยที่ 79 แล้วซึ่งมีนัยเป็นการเวียนหนังสือให้ประเทศสมาชิก UN รับทราบ

4. ในหลักการ การเวียนหนังสือของประเทศสมาชิกภายใต้ระเบียบวาระของสมัชชาสหประชาชาติ เป็นกระบวนการเพื่อบันทึกข้อมูลหรือท่าทีของประเทศสมาชิกไว้เป็นหลักฐาน (place on record) และทำให้เกิดการรับรู้ของประเทศสมาชิก ซึ่งในกรณีนี้ เมื่อกัมพูชามีหนังสือถึงสมัชชาสหประชาชาติ ฝ่ายไทยจึงได้ดำเนินการมีหนังสือถึงสมัชชาสหประชาชาติด้วยเช่นกัน เพื่อชี้แจงท่าทีของประเทศไทย ทั้งนี้ การเวียนเอกสารดังกล่าวเป็นแนวทางการเวียนเอกสารปกติของสหประชาชาติ

เอกสารของฝ่ายไทยที่ได้มีการเวียนประเทศสมาชิก UN รับทราบ ดังนี้