เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า มีรายงานผู้เสียชีวิต 11 ราย และมีผู้สูญหายอีกอย่างน้อย 45 ราย หลังจากมีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนักถล่มพื้นที่ภาคตะวันตกและตอนกลางของประเทศญี่ปุ่น และยังทำให้ต้องมีการอพยพประชาชนมากกว่า 1.6 ล้านคนออกจากบ้านเรือนในพื้นที่ดังกล่าวไปยังที่ปลอดภัย
สำนักงานอุตุนิยมวิทยาของญี่ปุ่นประกาศเตือนภัยสภาพอากาศในพื้นที่ 4 จังหวัดทางภาคตะวันตกของเกาะฮอนชู ให้ประชาชนเฝ้าระวังภัยจากเหตุดินทรุดถล่ม ระดับน้ำในแม่น้ำเพิ่มสูงขึ้นและลมพัดกระโชกแรงในเหตุพายุฝนถล่มหนักในพื้นที่ดังกล่าว
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ดร.วิวัฒน์ กรมดิษฐ์ ผู้อยู่เบื้องหลัง “บ้านกรมดิษฐ์” บ้านสวนลอยฟ้า
ด้านสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเครายงานกรณีมีผู้เสียชีวิตจากเหตุฝนตกหนักครั้งนี้ว่ามีแล้วอย่างน้อย 11 ราย ในจำนวนนี้ผู้เสียชีวิต 2 รายจากเหตุดินทรุดถล่มเนื่องจากถูกน้ำกัดเซาะดิน ผู้เสียชีวิตอีกรายมาจากการพลัดตกจากสะพานลงไปในแม่น้ำจนเสียชีวิตที่จังหวัดฮิโรชิมา ขณะที่ชายวัย 77 ปีอีกรายในเมืองทาคาชิมะ ในจังหวัดชิงะ เสียชีวิตหลังจากตกลงไปในคลอง
นายโยชิฮิเดะ สุงะ เลขานุการประจำสำนักนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น แถลงว่า ทางการได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจราว 48,000 นาย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่กองกำลังป้องกันตนเอง(เอสดีเอฟ) เข้าไปรับมือตอบสนองในพื้นที่เกิดเหตุดินทรุดถล่มมากกว่า 100 จุดแล้ว พร้อมกับนำส่งความช่วยเหลืออื่นๆ ให้แก่ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยด้วย
วันเดียวกันสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ได้ออกประกาศเตือนภัยฝนตกหนัก น้ำหลาก และดินถล่ม หลังจากกรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นประกาศเตือนภัยฉุกเฉินให้ระวังภัยจากฝนตกหนัก ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำหลากและดินถล่ม โดยเฉพาะในพื้นที่จังหวัดฟูกูโอกะ ซางะ นางาซากิ โอกายามา กิฟุ เฮียวโกะ และเกียวโต แต่ขณะนี้ยังไม่มีรายงานคนไทยได้รับบาดเจ็บ
สถานเอกอัครราชทูตยังขอให้คนไทยที่อยู่ในพื้นที่ดังกล่าวโปรดใช้ความระมัดระวัง ติดตามประกาศของทางการญี่ปุ่นอย่างใกล้ชิด ขณะที่นักท่องเที่ยวหากไม่มีเหตุจำเป็นโปรดหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่ดังกล่าวด้วย
ที่มา มติชนออนไลน์