ยกเลิกกม. “เซ็กส์เพศเดียวกันคืออาชญากรรม” ก้าวย่างที่สำคัญของอินเดีย

AFP PHOTO / Sajjad HUSSAIN

เรียบเรียงจาก เดอะ การ์เดียน

เป็นวินาทีที่จับหัวใจของ สุนิล เมห์รา นักหนังสือพิมพ์ชาวอินเดียเป็นอย่างมาก เมื่อ เมนากา กุรัสวามี ทนายความของเขาเล่าเรื่องราวความรักระหว่างเขากับแฟนหนุ่มนักเต้น นาฟเท็จ โจฮาร์ ให้กับ 5 ผู้พิพากษาศาลสูงสุดแห่งอินเดีย ซึ่งเห็นชอบว่าควรทำให้เพศสภาพเกย์เป็นเรื่อถูกต้องตามกฏหมาย

กุรัสวามีเล่าว่า คนทั้งคู่รักกันมากว่า 24 ปีแล้ว เมห์ราสอบบรรจุเป็นข้าราชการพลเรือนได้ แต่ไม่กล้าบอกใครว่าตนเป็นคนรักเพศเดียวกัน เพราะกังวลว่าจะถูกกลั่นแกล้งและประณาม ชีวิตที่ผ่านมาจึงไม่สามารถแสดงตัวตนได้อย่างเต็มที่ ความรู้สึกเช่นนี้จึงไม่ต่างกับ “นักโทษที่ถูกขัง” แม้ว่าจะปราศจากคุกก็ตาม

หากย้อนกลับไปดูกฎหมายอินเดียเมื่อปี 1861 ความรักของพวกเขาถือเป็นอาชญากรรมร้ายแรงที่จะต้องถูกตัดสินโทษจำคุก 10 ปี พอมาวันนี้ กุรัสวาให้เหตุผลที่ศาลควรเปลี่ยนความคิดว่า “ชีวิต 20 ปีของพวกเขา (เมห์ราและโจฮาร์) สูญเปล่าอย่างน่าเสียดาย ความกลัวที่จะถูกประณามทำให้เขาต้องใช้ชีวิตอย่างไม่มั่นคงและไม่ปลอดภัย จะเป็นไปได้ไหมที่เราจะมอบชีวิตที่ดีกว่านี้ให้กับเด็กรุ่นใหม่ในอนาคต”

ทนายความกุรัสวามีได้พยายามโน้มน้าวผู้พิพากษาทั้ง 5 คน โดยอ้างย้อนไปตั้งแต่วัฒนธรรมสมัยโบราณก่อนจะมีกฏหมาย โดยเฉพาะความจริงที่ว่าการรักเพศเดียวกันเป็นสิ่งที่เป็นไปโดยกำเนิดและไม่อาจเลือกได้ ทั้งนี้ ทนายคนดังกล่าวยังได้อ้างถึงประวัติศาสตร์สมัยตกอยู่ใต้อาณานิคมอังกฤษว่า อินเดียมีการพรรณาภาพถึงความรักของคนเพศเดียวกัน หรือในศาสนาฮินดูเอง พระเจ้าก็ได้แปลงกายเป็นเทพธิดาและผู้ชายก็สามารถตั้งครรภ์ได้

และในวันที่สามของการพิพากษา ผลพิพากษาดังกล่าวอาจเปลี่ยนสังคมอินเดียไปตลอดกาล ผู้พิพากษาศาลสูงสุดได้พิจารณาที่จะปรับปรุงให้กฏหมายการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างคนรักเพศเดียวกันเป็นเรื่องถูกกฏหมาย เมื่อคนเหล่านั้นเป็นผู้ใหญ่และยินยอมต่อกัน

ภายหลังการตัดสินปรากฏออกมา เมห์ราถึงกับบอกว่า เขาไม่อยากจะเชื่อคำตัดสินในรูปแบบดังกล่าวจะเกิดขึ้น เขายอมรับว่าถึงกับต้องหยิกตัวเองแล้วถามว่า นี่เขายังอยู่ในอินเดียใช่หรือเปล่า?

20 ปีแห่งการต่อสู้เพื่อให้ได้มาซึ่งความชอบธรรมทางกฏหมายดังกล่าวได้รับแรงหนุนที่ดี เมื่อรัฐบาลส่งสาส์นโดยตรงถึงศาลสูงสุดว่า การตัดสินใจทั้งหมดนี้ขึ้นอยู่กับพวกเขา และจะไม่มีการประท้วงต่อคำตัดสินใดๆ

แม้ว่าพรรค บราติยา จานาตา ซึ่งเป็นรัฐบาลที่ให้ความสำคัญกับคุณค่าของท้องถิ่น โดยเฉพาะอย่างยิ่งแนวความคิดอนุรักษนิยมวัฒนธรรมฮินดู ทว่าความเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้ส่อเค้าดีว่าในอนาคตอาจจะมีการยกเลิกกฏหมายดังกล่าวได้

อันที่จริง กระแสความคิดหนึ่งที่ค่อยๆ ก่อตัวนับตั้งแต่ปีที่แล้ว และปูพรมสู่การยกเลิกกฏหมายดังกล่าวในปีนี้ ก็คือแนวคิดที่คนในสังคมเริ่มมองว่า “รสนิยมทางเพศถือเป็นสิทธิส่วนบุคคลอย่างหนึ่ง”

อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่คนอินเดียทุกคนที่ต้องการจะเปลี่ยนแปลงกฎหมายเกี่ยวกับเพศหลากหลายดังกล่าว สุบรามาเนียน สวามี สมาชิกสภาคนหนึ่งกล่าวว่า “การรักเพศเดียวกันเป็นสิ่งไม่ปกติ เราไม่อาจยินดีกับสิ่งนี้ได้ เราควรที่จะลงทุนลงแรงวิจัยด้านการแพทย์ให้มากยิ่งขึ้น เพื่อหาวิธีการรักษาในอนาคต”