บลูมเบิร์ก รายงานว่า ประเทศเอลซัลวาดอร์ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับ “ไต้หวัน” ซึ่งเป็นประเทศล่าสุดที่ตัดสินใจเช่นนี้ ก่อนหน้านี้ช่วงต้นปีที่ผ่านมา “โดมินิกันและบูร์กินาฟาโซ” ก็ได้ประกาศตัดความสัมพันธ์กับไต้หวันแล้ว
ทั้งนี้ ประเทศเหล่านี้ที่ยุติการทูตและการค้ากับไต้หวัน ระบุชัดว่าจากนี้จะหันไปสถาปนาความสัมพันธ์กับ “จีนแผ่นดินใหญ่” แทนทำให้ในปัจจุบันไต้หวันมีประเทศที่มีความสัมพันธ์ทาการทูตกับอีก 17 ประเทศที่เหลือเท่านั้น ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประเทศเล็กๆ อยู่ในแถบอเมริกากลางและหมู่เกาะแปซิฟิก
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
ปรากฎการณ์ดังกล่าวเป็นความพยายามของรัฐบาลปักกิ่งที่ต้องการให้รัฐบาลไทเปถูกโดดเดี่ยวจากประชาคมโลก หลังจากที่ไต้หวันยึดถืออุดมการณ์ “ประชาธิปไตย” และมีความขัดแย้งกับรัฐบาลจีนในหลายๆ เรื่องด้วยกัน โดยเฉพาะเรื่องอำนาจอธิปไตยที่จีนพยายามเข้ามาแทรกแซงไต้หวันมานาน
ขณะที่ โจเซฟ อู่ รัฐมนตรีว่าการต่างประเทศของไต้หวัน กล่าวประณามรัฐบาลจีนว่าพยายามใช้นโยบายและให้ความช่วยเหลือทางการค้าการลงทุนแก่ประเทศพันธมิตรอื่นๆ ของไต้หวัน เพื่อซื้อใจและโน้มน้าวให้โดดเดี่ยวไต้หวันในเวทีโลก
ส่วนทางฝั่งของจีน นายหวัง อี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวระหว่างพิธีลงนามสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับเอลซัลวาดอร์ ด้วยความชื่นชมที่ตัดสินใจยอมรับว่า “จีนเพียงหนึ่งเดียวในโลกเท่านั้น”
ขณะที่ คาร์ลอส คาสตาเนดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของเอลซัลวาดอร์ กล่่าวถึงการตัดสินใจครั้งนี้ว่าเป็นทางเลือกเชิงยุทธศาสตร์ ซึ่งเชื่อมั่นว่ารัฐบาลตัดสินใจเเลือกหนทางที่ดีที่สุดและได้ประโยชน์ที่สุดสำหรับพลเมืองทั้ง 2 ประเทศ