“โฮม โอนเนอร์ชิพ” ในอังกฤษตกฮวบ 9.9% รอบ 10 ปี

สำนักข่าวอินดิเพนเด้นท์รายงานว่า สัดส่วน โฮม โอนเนอร์ชิพ(Home ownership) ในประเทศอังกฤษตกต่ำลงเป็นประวัติการณ์ของสหภาพยุโรป ภายหลังจากวิกฤตทางการเงิน โดยตัวเลขการถือครองบ้านของประชากรในอังกฤษเมื่อปี 2016 อยู่ที่ 63.4 % หรือลดลงประมาณ 9.9 % จากปี 2007 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 73.3 ขณะที่โปแลนด์และฝรั่งเศสมีตัวเลขพุ่งสูงขึ้นร้อยละ 20 และ 5 ตามลำดับ

ผลการศึกษาล่าสุดชี้ให้เห็นถึงสถานการณ์วิกฤตด้านที่อยู่อาศัยในอังกฤษ ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาที่จะก่อผลกระทบให้กับหนุ่มสาว-คนทำงานที่มีอายุต่ำกว่า 40 ปี

Institute for Fiscal Studies (IFS) เผยสถิติว่า 43 % ของผู้ที่เกิดในปลายทศวรรษ 1970 มีบ้านเป็นของตัวเองเมื่ออายุประมาณ 27 ปี ขณะที่ผู้ที่เกิดช้ากว่านั้น 5 ปี มีบ้านเป็นของตัวเองในวัย 27 ปี ร้อยละ 33 และมีเพียงร้อยละ 25 ของคนที่เกิดในปลายทศวรรษ 1980 ที่เป็นเจ้าของบ้านเมื่ออายุ 27 ปี

ตัวเลขการเป็นเจ้าของบ้านในวัยหนุ่มสาวมีแนวโน้มลดลงทุกภูมิภาค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีราคาแพง

ย้อยกลับไปเมื่อ 20 ปีก่อน ร้อยละ 64 ของประชากรในลอนดอนและฝั่งตะวันออกเฉียงใต้ที่มีอายุ 25-34 ปี มีบ้านเป็นของตัวเอง ขณะที่ปัจจุบันตัวเลขนั้นลดลงครึ่งต่อครึ่งที่ร้อยละ 32

IFS ระบุสาเหตุที่โฮม โอนเนอร์ชิพในอังกฤษตกฮวบว่า เป็นผลมาจากการที่ราคาบ้านที่พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก ซึ่งแปรผันตรงกับรายได้ที่มากขึ้น

ราคาเฉลี่ยของบ้านเมื่อปี 2015/2016 สูงกว่าราคาเฉลี่ยของบ้านเมื่อปี 1995/1996 ประมาณ 2.5 เท่า ขณะที่ภายหลังการปรับแก้ค่าเงินเฟ้อ รายได้ของประชากรกลับเพิ่มสูงขึ้นเพียง 1 ใน 5 เท่า ณ เวลานั้น ซึ่งมีการตั้งข้อสังเกตว่า แม้ราคาบ้านจะสูงขึ้นมาก แต่มูลค่าการจำนองบ้านกลับต่ำลง เนื่องจากอัตราดอกเบี้ยยังคงต่ำ