ความตึงเครียดเกาหลีเหนือเเละสหรัฐยังไม่มีลด หลังสองผู้นำสาดคำพูดข่มขู่กันไปมาไม่หยุดหย่อน ล่าสุดประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กล่าววานนี้ขณะกำลังพักร้อนที่นิวเจอร์ซี่ย์ระบุว่า
“คำเตือนแรง ๆ ของเขาอาจจะยังไม่แรงพอสำหรับเกาหลีเหนือ”
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ยูโอบี ย้ำลูกค้าบัตรเครดิตซิตี้ ยังใช้งานได้ปกติ แจงสิ่งควรรู้หลังโอนพอร์ต
โดยก่อนหน้านี้ ประธานาธิบดีทรัมป์กล่าวข่มขู่เกาหลีเหนือว่าจะต้อง “เจอกับไฟและความเดือดดาล” เเบบที่โลกไม่เคยเห็นมาก่อน โดยทางเกาหลีเหนือได้ตอบโต้กลับว่าพร้อมจะยิงขีปนาวุธโจมตีเกาะกวม ซึ่งเป็นดินแดนของสหรัฐในมหาสมุทรแปซิฟิก ภายในกลางเดือนสิงหาคมนี้
นอกจากนี้ ประธานาธิบดีทรัมป์ ยังกล่าวพาดพิงถึงท่าทีของจีนว่า จีนผู้เป็นพันธมิตรสำคัญของเกาหลีเหนือ ควรจะต้องดำเนินการกดดันเกาหลีเหนือยกเลิกโครงการอาวุธนิวเคลียร์และขีปนาวุธให้มากกว่านี้
ด้าน พล.อ.เจมส์ แมททิส รัฐมนตรีกลาโหมสหรัฐ เเสดงท่าทีไม่เเข็งกร้าวเหมือนประธานาธิบดีทรัมป์ โดยเขาระบุถึงการเจรจาว่า หากเกิดสงครามขึ้นจริงจะเป็นหายนะรุนเเรง จึงจำเป็นต้องพยายามใช้การเจรจาทางการทูตเพื่อเเก้วิกฤตเกาหลีเหนือ
ขณะที่ทางการญี่ปุ่น ประกาศว่ากองกำลังของญี่ปุ่นสามารถยิงสกัดขีปนาวุธของเกาหลีเหนือที่มีเป้าหมายถล่มเกาะกวมของสหรัฐ โดยเป็นการให้ความช่วยเหลือต่อสหรัฐ หรือประเทศพันธมิตร แม้ว่าญี่ปุ่นจะไม่ถูกโจมตีโดยตรง