รอยเตอร์สรายงานว่า บริษัทอาลีบาบา ยักษ์อีคอมเมิร์ซรายใหญ่ที่สุดของจีน ได้เตือนถึงการลงทุนในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาว่า การลงทุนในธุรกิจจัดส่งสินค้าของบริษัทจะกดดันต่อผลกำไรของบริษัทอย่างต่อเนื่อง เเม้ว่าอาลีบาบาเพิ่งจะมีการรายงานรายได้ไตรมาสล่าสุดที่เเข็งเเกร่งที่สุดเท่าที่มีมา
หุ้นของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดสหรัฐปรับตัวขึ้นในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี เเต่ลดลงในเช้าวันศุกร์กว่า 3 เปอร์เซ็นต์ โดยธุรกิจหลักที่สร้างรายได้ให้กับอาลีบาบาได้เเก่ Tmall เเละ Taobao รวมถึง อาลีเพย์ รวมถึงการลงทุนด้านเนื้อหากีฬา ไมโครชิปและเทคโนโลยีการจดจำใบหน้าอีกด้วย
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- โปรดเกล้าฯ พระราชทานยศ ข้าราชการในพระองค์ฝ่ายทหาร 3 ราย
- ราคาทองวันนี้ (24 เม.ย. 67) พุ่งขึ้น 250 บาท ทองรูปพรรณ 41,100 บาท
คอลลิน เซบาสเตียน นักวิเคราะห์ จาก Baird กล่าวว่า ขณะที่อาลีบาบายังคงลงทุนในโครงการด้านการค้าปลีกใหม่ๆ อยู่นั้น การรวมธุรกิจที่มีอัตรากำไรต่ำ ไม่ว่าจะเป็น Cainiao, Ele.me และ Lazada ได้เริ่มทำการหากำไรระยะยาวของธุรกิจหลัก
“เราคาดว่าผู้ค้าปลีกรายใหม่ที่มุ่งเน้นการบริหารจัดการอย่างต่อเนื่อง ยังจะทำกำไรได้ในอนาคตอันใกล้นี้” เซบาสเตียนกล่าวโดยลดราคาเป้าหมายลง 5-215 ดอลลาร์ต่อหุ้น
ในเดือนเมษายนถึงเดือนมิถุนายนอัตรากำไรขั้นต้นของอาลีบาบาอยู่ที่ 11 เปอร์เซ็นต์ เทียบกับ 29.2 เปอร์เซ็นต์ในปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นระดับต่ำที่สุดนับตั้งแต่มีการจัดจำหน่ายหุ้นของบริษัทในปี 2014 อัตรากำไรที่อาลีบาบามีมากกว่า 20 เปอร์เซ็นต์
เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาทางบริษัทได้จัดตั้ง บริษัทโฮลดิ้งเพื่อจัดหาอาหาร ได้เเก่ Ele.me และ Koubei ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้บริการด้านอาหารและไลฟ์สไตล์ให้กับบริษัท ได้รับเงินลงทุนกว่า 3 พันล้านดอลลาร์ ในภาระผูกพันการลงทุนใหม่ของซอฟต์แบงก์ เเละอาลีบาบา
อย่างไรก็ตาม เเจ็ค หม่า เจ้าของอาลีบาบา เปิดเผยกำไรรายไตรมาสลดลงร้อยละ 41 เปอร์เซ็นต์ เป็นผลมาจากการจ่ายค่าตอบแทนให้กับพนักงานเพื่อชดเชยกับการประเมินมูลค่าของบริษัทแอนท์ ไฟแนนเชียล
ถึงอย่างนั้น อาลีบาบายังยืนกรานว่า รายได้สุทธิของบริษัทจะเพิ่มขึ้น 33 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว บริษัทมีรายได้เพียง 8.04 หยวนต่อหุ้นหรือ 1.22 ดอลลาร์ต่อหุ้นโดยไม่รวมค่าใช้จ่ายโดยเฉลี่ยประมาณ 8.15 หยวนต่อหุ้น
อย่างไรก็ตามธุรกิจอีคอมเมิร์ซหลักของอาลีบาบายังคงเติบโตอย่างมากในช่วงที่เศรษฐกิจของประเทศจีนมีการชะลอตัวเนื่องจากสงครามการค้ากับสหรัฐฯ โดยยอดขายในธุรกิจหลักของอาลีบาบาขยายตัว 61 เปอร์เซ็นต์ แตะที่ 69.2 พันล้านหยวน ยอดขายรวมในไตรมาสนี้เพิ่มขึ้น 61 เปอร์เซ็นต์ เป็น 80.9 พันล้านหยวน หรือประมาณ 11.77 พันล้านดอลลาร์ สำหรับรายได้จากธุรกิจคอมพิวเตอร์ของอาลีบาบาเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าแตะ 4.7 พันล้านหยวน ขณะที่รายได้จากธุรกิจบันเทิงเพิ่มขึ้น 46.4 เปอร์เซ็นต์เป็น 6 พันล้านหยวน
