ไต้หวันเล็งลดฟรีวีซ่าไทยเหลือ2ครั้งต่อคนต่อปี ดัดหลังพวกดอดค้าประเวณี

เมื่อวันที่ 1 กันยายน เว็บไซต์ไต้หวันนิวส์รายงานว่า จากการที่มีนักท่องเที่ยวชาวเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จำนวนมากขึ้นที่มีส่วนร่วมในการค้าประเวณีใช้โครงการยกเว้นวีซ่าเดินทางมายังไต้หวันหลายรอบ ทำให้เจ้าหน้าที่ทางการไต้หวันเล็งที่จะลดจำนวนโครงการยกเว้นวีซ่าสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทย ฟิลิปปินส์ และบรูไนลงจาก 6 ครั้งต่อคนต่อปีเหลือ 2 ครั้งต่อคนต่อปี

นางจาง ฉิงเซิน รัฐมนตรีผู้มีหน้าที่รับผิดชอบเฉพาะทางเรียกประชุมกระทรวงที่มีส่วนรับผิดชอบในกรณีนี้เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม เพื่อทบทวนนโยบายยกเว้นวีซ่าของไต้หวัน

ข่าวระบุว่า ในขณะที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจากไทย บรูไน และฟิลิปปินส์รวมกัน 410,000 คนในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา แต่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากขึ้นเช่นกันที่พบว่ามีส่วนร่วมในการค้าบริการทางเพศระหว่างที่พำนักอยู่ในไต้หวัน

นายจางกล่าวเสริมว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจากไทยและฟิลิปปินส์เพิ่มขึ้น 95 เปอร์เซ็นต์ และ 48.5 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับจากจำนวนเฉลี่ยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา

ไต้หวันนิวส์ได้รายงานไว้เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า บุคคลสัญชาติไทยรายหนึ่งที่มีส่วนร่วมในการค้าบริการทางเพศระหว่างที่เดินทางมายังไต้หวันหลายครั้งด้วยสถานะนักท่องเที่ยวได้รับการตรวจพบว่าติดเชื่อเอชไอวี และเป็นไปได้ว่าได้แพร่เชื้อให้กับลูกค้าที่ซื้อบริการทางเพศหลายคน อ้างอิงจากแถลงการของตำรวจเมืองไถหนัน

นายจางกล่าวว่า เพื่อจัดการกับปัญหานี้ รัฐบาลได้ปรับลดฟรีวีซ่าจากพลเมืองของทั้ง 3 ประเทศนี้ให้อยู่ในไต้หวันได้เพียง 14-15 วันจากเดิม 30 วัน และกำลังพิจารณาว่าจะลดโครงการยกเว้นวีซ่าจาก 6 ครั้ง ให้เหลือ 2 ครั้งต่อคนต่อปี นอกจากนี้บุคคลที่มีความเสี่ยงอาจตกเป็นเป้าของมาตรการตรวจสอบและเฝ้าติดตามอย่างเข้มงวด

นายจางยังชี้แจงด้วยว่ารัฐบาลจะปรับปรุงเทคโนโลยีให้ก้าวหน้ามากขึ้นเพื่อนำมาใช้จัดการการผ่านแดนให้ดีขึ้นแทนที่จะจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว โดยคณะทำงานในเรื่องนี้จะจัดสรรงบประมาณที่มากขึ้นเพื่อควบคุมอาชญากรรมในขณะที่มีนักท่องเที่ยวจำนวนมากขึ้นเดินทางมายังไต้หวัน

ทั้งนี้ ไต้หวันมีโครงการยกเว้นวีซ่าระหว่างกันกับประเทศทางตอนใต้ที่รวมถึง 10 ชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (สิงคโปร์ มาเลเซีย บรูไน ไทย ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย เวียดนาม เมียนมา กัมพูชาและลาว) และ 6 ชาติเอเชียใต้ (อินเดีย ศรีลังกา ภูฏาน บังกลาเทศ ปากีสถานและเนปาล) ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์

 

ที่มา มติชนออนไลน์