ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือนส.ค.ที่ผ่านมา เกิดเหตุประท้วงขึ้นในกรุงธากา และหลายเมืองของบังกลาเทศ โดยนักเรียนนักศึกษาจำนวนหลายคนออกมาปิดถนน และประท้วงเรียกร้องให้เครือข่ายคมนาคมยกระดับความปลอดภัยบนท้องถนน หลังเกิดเหตุรถบัสวิ่งมาด้วยความเร็วชนเด็กวัยรุ่นที่เดินถนน 2 คนเสียชีวิต
โดยหลังจากนั้น คณะรัฐมนตรีของนายกรัฐมนตรี ชัยค์ ฮาซินา ได้ออกกฎหมายการขนส่งฉบับใหม่ ซึ่งกำหนดบทลงโทษต่อผู้กระทำผิดให้ความรุนแรงขึ้นกว่าเดิม
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
ล่าสุด เว็บไซต์ newagebd สำนักข่าวภาษาอังกฤษของบังกลาเทศ รายงานว่า อาซาดูซซามาน มีอา ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลกรุงธากา กล่าวว่า ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่ไม่สวมหมวกกันน็อกจะถูกห้ามไม่ให้ซื้อเชื้อเพลิงที่ปั๊มน้ำมันในเมืองธากา เมืองหลวงของบังกลาเทศ เพื่อจุดประสงค์การยกระดับความปลอดภัยบนท้องถนนในประเทศ
นอกจากนี้ มาตรการดังกล่าวได้ระบุว่า รถจักรยานยนต์หนึ่งคัน อนุญาตให้มีคนอยู่บนรถได้สูงสุด 2 คน เท่านั้น คือ ผู้ขับขี่และผู้โดยสารที่ซ้อนท้ายอีก 1 คน และต้องสวมหมวกกันน็อกเช่นกัน
นับเป็นความเคลื่อนไหวแรกของบังกลาเทศ ซึ่งเมืองหลวงธากาจะเป็นเมืองนำร่องเมืองแรก เพื่อศึกษาผลลัพธ์และนำไปปรับใช้ในเมืองอื่นต่อไป เป็นความพยายามลดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง
ทั้งนี้ กลุ่มเอกชนที่สังเกตการณ์อุบัติเหตุเปิดเผยข้อมูลว่า ในแต่ละปีพบว่ามีผู้เสียชีวิตประมาณ 12,000 รายในบังกลาเทศ มีสาเหตุมาจากอุบัติเหตุบนท้องถนนทั้งสิ้น