สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาเรียกร้องเมื่อวันที่ 6 กันยายน ให้นิวยอร์กไทม์สเปิดเผยชื่อของ “คนขี้ขลาด” ที่เขียนบทความแสดงความคิดเห็นแบบไม่ลงชื่อซึ่งฉุดดึงตำแหน่งประธานาธิบดีของเขาลงสู่จุดวิกฤตที่สุดเท่าที่เคยมีมา
ทำเนียบขาวถูกสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงจากการไล่ล่าเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่เปิดเผยในบทความแสดงความคิดเห็นไม่ลงชื่อซึ่งตีพิมพ์ในนิวยอร์กไทม์สเมื่อวันที่ 5 กันยายนที่ผ่านมาว่ามี “ฮีโร่ที่ปิดทองหลังพระหลายคน” ซึ่งทำงานอย่างเงียบๆ ในฝ่ายบริหารเพื่อขัดขวาง “เรื่องเลวร้ายที่สุด” ของประธานาธิบดีทรัมป์ไม่ให้ประสบความสำเร็จ
- นักท่องเที่ยวเข้าต่ำแสน หวั่นโลว์ซีซั่นทรุดหนัก ททท.ชี้กระทบสั้นยอดบุ๊กกิ้งแอร์ไลน์แน่น
- เปิด 10 อันดับมหาวิทยาลัยรัฐ-ราชภัฏ-เอกชน ที่ได้รับความนิยมมากสุด
- ร้านธงฟ้า 1.4 แสนแห่ง พร้อมรับดิจิทัลวอลเล็ต เช็กจังหวัดไหนร้านธงฟ้ามาก-น้อยสุด
“ไม่มีใครรู้ว่าเขาหรือเธอเป็นใครกันแน่” นายทรัมป์เปิดเผยกับผู้สนับสนุนในการหาเสียงที่เมืองบิลลิงส์ รัฐมอนแทนา โดยกล่าวว่า “ผู้ปฏิบัติการของรัฐที่ไม่สามารถระบุตัวตนได้ซึ่งท้าทายอำนาจของผู้มีสิทธิเลือกตั้งเพื่อผลักดันวาระลึกลับถือเป็นภัยคุกตามต่อประชาธิปไตยอย่างแท้จริง”
ข่าวระบุว่า เรื่องนี้จุดชนวนให้เกิดความกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติ ซึ่งนายทรัมป์ระบุว่านิวยอร์กไทม์สควรจะตีพิมพ์ชื่ออย่างเป็นทางการ ก่อนที่จะเรียกร้องให้ผู้สื่อข่าวตรวจสอบในเรื่องนี้ โดยกล่าวว่า “นั่นจะเป็นสกู๊ปข่าวที่ดี”
ทั้งบนอินเตอร์เน็ตและในรัฐบาลวอชิงตัน มีการคาดเดาอย่างร้อนแรงว่าใครกันที่น่าจะเป็นคนเขียนบทความชิ้นนี้ ทำให้สมาชิกเกือบทุกคนในคณะรัฐมนตรีของรัฐบาลออกมาปฏิเสธ โดยนายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดี นายไมค์ ปอมเปโอ รัฐมนตรีต่างประเทศ นายจิม แมททิส รัฐมนตรีกลาโหม นายแดน โค้ตส์ ผู้อำนวยการข่าวกรองแห่งชาติและนางนิกกี เฮลีย์ ทูตสหรัฐประจำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ได้ออกมาปฏิเสธเรื่องนี้แล้ว
“รองประธานาธิบดีลงชื่อในบทความแสดงความคิดเห็นของเขา นิวยอร์กไทม์สควรจะละอายเช่นเดียวกับบุคคลที่เขียนบทความแสดงความคิดเห็นที่ผิด ไร้เหตุผลและขี้ขลาดตาขาว” นายจาร์ร็อด เอเจ็น โฆษกของนายเพนซ์ทวีต “สำนักงานของเราอยู่เหนือการกระทำแบบสมัครเล่นเช่นนี้”
บทความดังกล่าวตามมาหลังจากการเผยแพร่บทคัดย่อจากหนังสือที่สร้างความสั่นสะเทือนของนายบ็อบ วู้ดเวิร์ด ผู้สื่อข่าวดังจากคดีวอเตอร์เกท ที่ฉายภาพให้เห็นว่าทำเนียบขาวของนายทรัมป์เป็น “เมืองคลั่ง” ที่ไม่สามารถควบคุมได้
นายทรัมป์ตอบโต้อย่างเกรี้ยวกราดด้วยการทวีตข้อความโจมตีเป็นชุดพร้อมตั้งคำถามว่าผู้เขียนบทความแสดงความคิดเห็นดังกล่าวต้องถูกตั้งข้อหาก่อกบฏด้วยหรือไม่ ขณะที่นางเมลาเนีย ทรัมป์ สุภาพสตรีหมายเลข 1 ประณามการตัดสินใจในการตีพิมพ์บทความชิ้นนี้
ด้านซีเอ็นเอ็นรายงานว่า นายเจมส์ ดาวที่ดูแลหน้าบทความแสดงความคิดเห็นของนิวยอร์กไทม์สเปิดเผยว่า เขาได้รับบทความดังกล่าวผ่านคนกลาง แต่ได้พูดคุยโดยตรงกับผู้เขียน ขณะที่นิวยอร์กไทม์สยอมรับว่าเป็น “เรื่องที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนัก” ในการตีพิมพ์บทความแสดงความคิดเห็นที่ไม่ลงชื่อแต่ระบุว่า งานของผู้เขียนจะตกอยู่ในอันตรายหากมีการระบุตัวตน
หนังสือชื่อ “ความกลัว: ทรัมป์ในทำเนียบขาว” ของนายวู้ดเวิร์ดระบุว่าผู้ช่วยระดับสูงหลายคนนำเอกสารออกจากโต๊ะของนายทรัมป์ในห้องทำงานรููปไข่ เพื่อป้องกันไม่ให้นายทรัมป์ทำตามแรงจูงใจส่วนตัว โดยเรื่องนี้ได้รับการยืนยันซ้ำอย่างหนักแน่นในบทความของนิวยอร์กไทม์สชิ้นดังกล่าว
บทความดังกล่าวยังอธิบายว่า “รากเหง้าของปัญหาคือความไร้ศีลธรรมของนายทรัมป์” โดยประณามถึง “ความหุนหันพลันแล่น ใจแคบ และไร้ประสิทธิภาพ” ในการเป็นผู้นำของนายทรัมป์
ที่มา มติชนออนไลน์