จากกระแสฮือฮาหลังจากที่ “แจ็ค หม่า” ประกาศเมื่อวันที่ 10 ก.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันคล้ายวันเกิดของเขา ระบุว่าจะแต่งตั้งให้ “แดเนียล จาง” ให้เตรียมรับช่วงต่อการบริหารต่อจากเขาในฐานะประธานบริหาร “อาลีบาบา” อีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่แห่งเอเชีย ซึ่งวางแผนว่าจะวางมือในอีก 12 เดือนข้างหน้า
ทั้งนี้ บลูมเบิร์ก ได้เปิดเผยคำกล่าวของแจ็ค หม่า ที่เขียนถึงลูกค้า พนักงาน และผู้ถือหุ้นของอาลีบาบา ภายในวันเดียวกันนั้น โดยมีใจความสำคัญดังนี้
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
“วันนี้นับว่าเป็นการเฉลิมฉลองการครบรอบ 19 ปีของอาลีบาบา ผมรู้สึกตื่นเต้นอย่างยิ่งที่ได้แชร์ข่าวนี้กับคุณว่า หลังจากที่ผ่านมาการเห็นชอบของคณะกรรมการบริษัท 1 ปีหลังจากนี้ คือ 10 กันยายย ปี 2019 ซึ่งจะเป็นวันครบรอบ 20 ปีของอาลีบาบา นายแดเนียล จาง จะเข้ามาสืบทอดตำแหน่งประธานกรรมการของอาลีบาบา กรุ๊ป ต่อจากผม”
“และในระหว่างที่ผมยังคงดำรงตำแหน่งประธานบริหารในระยะเวลา 12 เดือนต่อจากนี้ ผมจะทำงานใกล้ชิดกับแดเนียล เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการเปลี่ยนผ่านจะเป็นไปอย่างราบรื่น และเพื่อให้บรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายของเรา หลังจากนั้นผมจะยังคงอยู่ในคณะกรรมการไปจนกว่าจะถึงการประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีในปี 2020”
“แผนการนี้ผมได้ไตร่ตรองและเตรียมตัวมาอย่างดีเป็นเวลา 10 ปี และผมยินดีอย่างยิ่งที่จะประกาศแผนดังกล่าวในวันนี้ ผมอยากขอบคุณสำหรับการสนับสนุนของ อาลีบาบา พาร์ทเนอร์ชิพ รวมถึงคณะกรรมการบริษัท และอยากขอบคุณเป็นพิเศษสำหรับผู้ร่วมงานและครอบครัวของอาลีบาบา ที่เชื่อใจและให้การสนับสนุนมาตลอดการทำงานร่วมกันเป็นระยะเวลายาวนานถึง 19 ปี ถือเป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อให้ก้าวมาถึงวันนี้อย่างเข้มแข็งและเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น”
“การเปลี่ยนผ่านตำแหน่งผู้สืบทอดอาลีบาบาครั้งนี้ แสดงให้เห็นถึงอีกก้าวหนึ่งของการยกระดับของอาลีบาบาในการบริหารจัดการกิจการที่ดีขึ้นเรื่อยๆ จากบริษัทที่ขึ้นอยู่กับบุคคล ไปสู่องค์กรที่มีระบบที่เป็นเลิศและมีวัฒนธรรมในการพัฒนาผู้มีความสามารถ”
นอกจากนี้ แจ็ค หม่า ยังได้พูดถึง ความยั่งยืนของอาลีบาบากับตำแหน่งผู้บริหารว่าไม่มีใครที่จะสามารถอยู่คู่กับบริษัทไปจน 102 ปี แต่หนึ่งเดียวที่บริษัทจะยังอยู่รอดได้ หากมาถึงจุดเปลี่ยนผ่านผู้สืบทอดตำแหน่งก็คือ การพัฒนาระบบองค์กรที่โปร่งใส อยู่บนพื้นฐานบนวัฒนธรรมที่แตกต่าง และไม่หยุดที่จะพัฒนาคนเก่ง ซึ่งตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ผมคิดว่าได้คิดค้นส่วนผสมที่เหมาะสมแล้ว
“ไม่มีบริษัทใดที่พึ่งพาแต่ผู้ก่อตั้งได้ ซึ่งผมรู้ดีที่สุด และด้วยข้อจำกัดด้านกายภาพของบุคคลทั้งแง่ความสามารถและกำลัง ไม่มีใครแบกรับความรับผิดชอบของการเป็นประธานและเจ้าหน้าที่บริหารไปได้ตลอดกาล”
“และด้วยความที่ผมถูกสอนมาให้เป็นครู ผมมีความภาคภูมิใจอย่างยิ่งและปรารถนาที่จะให้ลูกศิษย์ทำได้ดีกว่าตนเอง ดังนั้น ความรับผิดชอบของผมและบริษัทที่ต้องทำ คือการปล่อยให้คนรุ่นใหม่ๆ ที่เก่งกว่ามารับช่วงต่อและทำหน้าที่เป็นผู้นำ เพื่อสืบทอดภารกิจต่อไป โดยสามารถสร้าง “ความสะดวกสบายในการทำธุรกิจจากที่ไหนก็ได้” เพื่อช่วยผู้ประกอบการรายย่อย คนรุ่นใหม่ และผู้หญิงทั่วทั้งโลกอย่างเท่าเทียม
“การสืบทอดภารกิจนี้ไม่ใช่แค่เพียง แจ็ค หม่า แต่ต้องขอบคุณกับความอดทนอดกลั้นจากอาลีบาบาในหลายๆ รุ่น ซึ่งอาลีบาบา เป็นบริษัทที่น่าทึ่ง ไม่ใช่เพียงเพราะธุรกิจ ขนาด หรือความสำเร็จ สิ่งที่ดีที่สุดของอาลีบาบา การที่กลุ่มคนจำนวนมากมาอยู่ภายใต้พันธกิจและวิสัยทัศน์เดียวกัน เป็นระบบพาร์ทเนอร์ชิพของเรา วัฒนธรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เรามีทีมที่มีความสามารถ สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นองค์ประกอบที่ช่วยสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งและมั่นคงสำหรับสร้างตำนานขององค์กร”
นอกจากนี้ แจ็ค หม่า ได้กล่าวชื่นชมนาย แดเนียล จาง ว่าเป็นคนที่มีวิสัยทัศน์ทางธุรกิจที่ “เฉียบคม” โดยระบุว่า ได้ทำงานร่วมกับแดเนียลมากว่า 11 ปี เขาแสดงให้เห็นถึงความสามารถอันยอดเยี่ยม ความเฉียบคมทางธุรกิจ และความเป็นผู้นำที่มุ่งมั่น
“อาลีบาบา เห็นถึงการเติบโตที่สม่ำเสมอและยั่งยืนของการทำงานของแดเนียลอย่างต่อเนื่อง 13 ไตรมาสที่ผ่านมา เขามีความคิดเชิงวิเคราะห์ที่ยากจะมีใครเทียบได้ เขามีความกล้าที่จะคิดอะไรใหม่ๆ และทดสอบโมเดลทางธุรกิจที่สร้างสรรค์ ที่สำคัญคือ แดเนียล จะได้รับการยกย่องจากสื่อมวลชนในด้านธุรกิจของจีนให้เป็น ซีอีโอเบอร์ 1 ประจำปี 2018 ผมเชื่อว่าเหตุผลเหล่านี้ทำให้เขาและทีมงานได้รับความเชื่อมั่นและการสนับสนุนจากลูกค้า พนักงาน และผู้ถือหุ้น การเริ่มกระบวนการส่งผ่านตำแหน่งสำคัญนี้นับเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องในเวลาที่เหมาะสม”
ทั้งนี้ แจ็ค หม่า กล่าวทิ้งท้ายว่า “ผมยังมีความฝันอีกมากมายที่อยากจะทำ ผมไม่ชอบอยู่นิ่งเฉย ผมวางแผนที่จะทำหน้าที่พาร์ทเนอร์ผู้ก่อตั้งใน อาลีบาบา พาร์ทเนอร์ชิพ และทำงานให้กับพาร์ทเนอร์ชิพ ขณะเดียวกันผมก็อยากกลับไปเรื่องของการศึกษา ซึ่งเป็นเรื่องที่ผมตื่นเต้นและยินดีที่จะได้ทำมากต่อจากนี้ การศึกษาเป็นสิ่งที่ผมรักที่จะทำ โลกใบนี้ช่างกว้างใหญ่และผมก็ยังเยาว์ ดังนั้น การได้ทำสิ่งใหม่ๆ อาจทำให้เรารู้ว่ายังมีความฝันใหม่ๆ ที่รอผมอยู่”
ที่สำคัญมีสิ่งหนึ่งที่ผมสามารถสัญญากับทุกๆ คนได้ นั่นคือ “อาลีบาบาไม่ใช่ แจ็ค หม่า แต่ แจ็ค หม่า จะเป็นของอาลีบาบาเสมอไป”
