สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า เศรษฐกิจจีนเผยให้เห็นถึงสัญญาณของความอ่อนแอครั้งล่าสุดเมื่อวันที่ 14 กันยายน โดยข้อมูลแสดงให้เห็นว่าอัตราเร็วของการลงทุนชะลอตัวในระดับต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ ในขณะที่การใช้จ่ายภาคการค้าปลีกและอุตสาหกรรมการผลิตยังคงมีเสถียรภาพ ซึ่งทำให้จีนต้องเผชิญกับความซับซ้อนของมาตรการในการสร้างความสมดุลระหว่างการตั้งเป้าในการขยายตัวของเศรษฐกิจ โดยเปลี่ยนจากการลงทุนและการส่งออกมาเป็นการบริโภคของประชาชน ขณะเดียวกันกับที่ต้องต่อสู้รับมือกับภาวะหนี้สินที่กองท่วมเป็นภูเขาเลากาด้วย
ความขัดแย้งด้านการค้ากับสหรัฐได้ทำให้ตลาดหุ้นในประเทศร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดที่ไม่ได้เห็นนับตั้งแต่ภาวะล่มสลายเมื่อปี 2559 เป็นต้นมา การลงทุนในสินทรัพย์ถาวรที่เคยเป็นกุญแจสำคัญในการผลักดันการเติบโตทางเศรษฐกิจขยายตัวเพียงแค่ 5.3% ในช่วงเดือนมกราคม-สิงหาคม เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้วที่นับว่าต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์
- ประกาศแล้ว! พระราชกฤษฎีกาเงินช่วยค่าครองชีพผู้รับเบี้ยหวัดบำนาญ รับ 11,000 บาทต่อเดือน
- อย. เตือนอย่าซื้อผลิตภัณฑ์ CDS มาทาน อันตรายถึงชีวิต
- แห่ขายที่ดินพ่วงโรงงาน เอกชนถอดใจ-สินค้าจีนตีตลาด
ขณะที่ผลผลิตหน้าโรงงานเพิ่มขึ้น 6.1% ในเดือนสิงหาคม จาก 6.0% เมื่อเดือนกรกฎาคม ด้านการค้าปลีก ซึ่งเป็นภาคการบริโภคที่จีนต้องการใช้เป็นตัวขับเคลื่อนใหม่ของการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขยายตัว 9.0% เพิ่มจากเดือนกรกฎาคมซึ่งอยู่ที่ 8.8% อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์เตือนว่าการเพิ่มขึ้นนี้อาจหมายถึงการนำมาสู่อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นด้วย
ที่มา : มติชนออนไลน์