ทูตมะกันประจำยูเอ็นชี้ สหรัฐทุ่มงบช่วย “โรฮีนจา” เพิ่มเกือบ 2 เท่า

นางนิกกี เฮลีย์ เอกอัครราชทูตและผู้แทนถาวรสหรัฐประจำสหประชาชาติ (ยูเอ็น) กล่าวว่า สหรัฐได้ให้ความช่วยเหลือชาวมุสลิมโรฮีนจาพลัดถิ่นที่อยู่ในบังกลาเทศและเมียนมามากขึ้นเกือบ 2 เท่าตัว พร้อมประกาศด้วยว่าเธอกำลังพลักดันให้คณะตรวจสอบข้อเท็จจริงของยูเอ็นต่อกรณีดังกล่าว ได้บรรยายสรุปภาพรวมของวิกฤตการณ์ของชาวโรฮีนจาให้ที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นรับฟังอีกด้วย

เฮลีย์กล่าวว่า ผู้ที่ทำผิดคือกองทัพเมียนมา เนื่องจากคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของยูเอ็นได้ข้อสรุปรวมถึงยังมีตัวอย่างที่ชัดเจนว่าเกิดอะไรขึ้นที่นั่น ชาวโรฮีนจาไม่ใช่ผู้ก่อการร้าย แต่พวกเขาถูกกระทำโดยกองทัพเมียนมา ทั้งที่คนเหล่านี้เพียงแต่ต้องการสถานที่สำหรับดำรงชีวิตเท่านั้น

“ถึงเวลาแล้วที่ประชาคมระหว่างประเทศจะต้องเคลื่อนไหวในเรื่องดังกล่าว และเป็นเรื่องจำเป็นที่จะต้องจัดให้คณะตรวจสอบข้อเท็จจริงได้นำเสนอรายงานนี้ต่อยูเอ็นเอสซี” เฮลีย์กล่าว

เอกอัครราชทูตสหรัฐประจำยูเอ็นกล่าวด้วยว่า สหรัฐได้ให้เงินสำหรับความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมต่อชาวโรฮีนจาเพิ่มขึ้น 185 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในจำนวนนี้ 156 ล้านดอลลาร์จะถูกส่งไปยังค่ายผู้อพยพ และชุมชนที่ให้ที่พักพิงกับชาวโรฮีนจาในบังกลาเทศ ทำให้มูลค่าความช่วยเหลือทั้งหมดที่สหรัฐจัดสรรเพื่อช่วยเหลือวิกฤตการณ์โรฮีนจาในปีที่ผ่านมาสูงถึงเกือบ 389 ล้านดอลลาร์

ทั้งนี้ได้มีการจัดประชุมระดับรัฐมนตรีว่าด้วยกรณีปัญหาโรฮีนจาขึ้นที่นครนิวยอร์ก ซึ่งผู้นำโลกกำลังรวมตัวกันเพื่อร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติสมัยสามัญประจำปี หลังจากที่ก่อนหน้านี้คณะตรวจสอบข้อเท็จจริงของยูเอ็นออกมาสรุปว่า กองทัพเมียนมาได้กระทำการอันถือเป็นการสังหารหมู่และการข่มขืน ภายใต้ความตั้งใจที่จะฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวโรฮีนจา ซึ่งเมียนมาปฏิเสธข้อกล่าวหาดังกล่าว และว่าการตรวจสอบข้อเท็จจริงของยูเอ็นเป็นการให้ข้อมูลเพียงด้านเดียว ทั้งยังระบุด้วยว่าเมียนมามีความชอบธรรมตามกฏหมายที่จะปฏิบัติการเพื่อต่อต้านกลุ่มติดอาวุธในประเทศ

 

ที่มา : มติชนออนไลน์